ทำความรู้จักโควิดกลายพันธุ์ ‘มิว’หรือ B.1.621
.
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รามาฯ เผย "โควิดสายพันธุ์มิว B.1.621" ยังไม่พบในไทย หลังล่าสุดองค์การอนามัยโลกยกระดับการแพร่ระบาดให้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง ระบุกลายพันธุ์จากดั้งเดิม 50-60 ตำแหน่ง จับตาเฝ้าระวังเข้มคนเดินทางจากต่างประเทศ-โครงการแซนด์บอกซ์
.
ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่า สายพันธุ์มิว ถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศโคลัมเบีย เมื่อเดือนม.ค. 2564 ต้นปีที่ผ่านมา ในฐานข้อมูลกลางโควิดโลกหรือ GISAID มีการเผยแพร่ข้อมูลที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น และมีการถอดรหัสพันธุกรรม พบการกลายพันธุ์ที่ต่างจากสายพันธ์ดังเดิมอู๋ฮั่นค่อนข้างมากถึง 50-60 ตำแหน่ง จึงเป็นปัจจัยทำให้องค์การอนามัยโลกพิจารณายกระดบให้เป็นสายพันธุ์ที่เฝ้าระวังตัวที่ 5
.
หลังจากที่ก่อนหน้ามี 4 สายพันธุ์ที่ถูกจัดให้เฝ้าระวัง คือ อีตา (Eta- B.1.525) ระบาดในหลายประเทศ , ไอโอตา (Iota - B.1.526 ) ระบาดในสหรัฐอเมริกา , แคปปา (Kappa- B.1.617.1) ระบาดในอินเดีย และ แลมบ์ดา (Lambda- C.37) ระบาดในเปรู สายพันธุ์เหล่านี้ถูกจัดเป็นกลุ่มสีเหลืองที่ความรุนแรงยังต่ำกว่าสายพันธุ์ที่ต้องระวังหรือ Variants of Concern (VOC) เป็นกลุ่มสีแดงมี 4 ตัวที่ระบาดในขณะนี้ คือ เดลตา,อัลฟา, เบตา และแกมมา
.
ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ กล่าวด้วยว่า สายพันธุ์มิวระบาดอยู่ในประเทศที่ไกลจากบ้านเรา ประเทศในแถบเอเชียก็ยังไม่พบรายงานการระบาด และประเทศไทยยังไม่มีรายงานพบสายพันธุ์นี้ ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะยังไม่มีหลักฐานทางคลินิกที่บ่งชี้ว่าจะรุนแรงกว่าสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่รหัสพันธุกรรมบ่งชี้ว่าอาจจะหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ ความกังวลที่ถูกจัดให้เฝ้าระวัง ส่วนใหญ่จะพิจารณาจากภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับวัคซีนป้องกัน เนื่องจากเกรงว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าไปหรือแอนติบอดีสังเคราะห์ที่ฉีดเข้าไปจะไม่ตอบสนอง ดังนั้นจึงต้องรีบศึกษาทดลองในห้องปฏิบัติการ แต่ไม่ได้หมายความว่าในร่างกายมนุษย์จริงๆ จะเป็นเช่นนั้น