xs
xsm
sm
md
lg

“หมอพรทิพย์” มีความกังวลว่าคดี ผกก.โจ้ เริ่มมีการได้รับการช่วยเหลือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“หมอพรทิพย์” มีความกังวลว่าคดี ผกก.โจ้ เริ่มมีการได้รับการช่วยเหลือ
“หมอพรทิพย์” มีแต่ความกังวลว่าคดีนี้เริ่มมีการได้รับการช่วยเหลือ...
ความยุติธรรมจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ตาชั่งเอียงตั้งแต่เริ่มต้น
.
27 ส.ค.แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงการแถลงข่าวการจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือโจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ..โดยข้อความระบุว่า
.
แถลงข่าวจบไม่มีคำชื่นชมใดๆเกิดขึ้นกลับมีแต่ความกังวลว่าคดีนี้เริ่มมีการได้รับการช่วยเหลือ ทำไมไม่ให้ผู้ต้องคนอื่นในคดีนี้ได้พูด ทำไมคนอื่นถูกใส่กุญแจมือแต่ตัวหัวหน้าถูกผูกข้อมือด้วยวัสดุต่างกัน ฟังแต่ละคนที่ให้ข้อมูลก็ยิ่งดูเหมือนการอุ้ม รีด ซ้อม ทรมาน ยัดเยียดที่เป็นสิ่งที่มีมาคู่กับงานของตำรวจนานแล้วกลายเป็นสิ่งที่ธรรมดา ถูกต้อง ทำเพราะมีเจตนาดีเพื่อช่วยควบคุมปัญหายาเสพติด อ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพวกเฉยเลย คนเอาคลิปมาเปิดเผยกลายเป็นผู้ขัดแย้งหรือขัดผลประโยชน์กับผกกทันที แบบนี้ยิ่งต้องรีบปฏิรูปตำรวจด้านการอำนวยความยุติธรรมโดยเร็วที่สุด
.
ในชีวิตเคยตรวจสอบการตายที่ผู้ต้องหาทางใต้ หลังถูกจับไม่ถึงสองชั่วโมงก็ตายในห้องขังเบื้องต้นช่วยกันสรุปว่าขาดอากาศตาย แต่เมื่อญาติร้องขอความเป็นธรรมจึงพบว่าถูกซ้อมซี่โครงหักกดหัวใจแตก ถูกเผาไข่ตอนกำลังจะตายแต่ก็ช่วยกันสรุปเบื้องต้นว่าขาดอากาศตาย อีกคดีหดหู่คือคดีที่ผู้ต้องหาถูกอุ้มจากอ่างทองมาพบเป็นศพที่แจ้งวัฒนะกรุงเทพ แต่ทำคดีว่ามีการต่อสู้การจับกุมเลยถูกยิงตายที่แจ้งวัฒนะ ญาติร้องขอให้ผ่าศพครั้งที่สองจึงพบหลักฐานสำคัญค้างในศพคือเสื้อคนตายและหลักฐานที่บอกเวลาตายทำให้สภาทนายความในสมัยนั้นส่งทีมไปหาหลักฐานเพิ่มได้ที่อ่างทอง ว่าแท้ที่จริงถูกยิงเสียชีวิตที่อ่างทอง
.

ทั้งสองคดีญาติต้องเป็นฝ่ายร้องขอความเป็นธรรมและต่อสู้เอง ใช้เวลาหลายปีจนจบคดีในขั้นตอนการไต่สวนวิสามัญด้วยเงินจำนวนหลายล้าน ผู้กระทำผิดยังคงอยู่ในระบบราชการเพราะให้ฝ่ายเดียวกันตรวจสอบและ ขั้นตอนกฎหมายปล่อยให้ข้อมูลและหลักฐานถูกตัดออกไปจากสำนวนด้วยข้อกฎหมายที่เอื้อช่องว่างและการใช้ดุลพินิจ
.
ถ้าตำรวจยังคงเห็นว่าวิธีเดิม อุ้ม รีด ซ้อม ยัดเยียด ป้ายสี จนถึงฆ่าแล้วบอกว่าพลั้งมือเป็นสิ่งที่ไม่ผิดเห็นทีพรบตำรวจที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการและพรบห้ามอุ้มหายและซ้อมทรมานก็ไม่ช่วยอะไร เนื้อหาในกฎหมายที่อยู่ในชั้นสสมีแต่หลักการเตือน แต่ไม่มีวิธีตรวจสอบการซ้อม ตรวจสอบการตายรวมทั้งไม่มีระบบการตรวจสอบศพนิรนามด้วยหน่วยงานกลาง เห็นทีความยุติธรรมคงไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง ไม่เชื่อลองไปตามคดีเหล่านี้ดูว่าเอาตัวเจ้าหน้าที่ที่ลงมือมาลงโทษได้แค่ไหน
.
ต้องทำให้ตำรวจมีจิตสำนึกเคารพในสิทธิของบุคคล ถ้าเลือกทำงานในกระบวนการยุติธรรมต้องมีศรัทธาในการทำสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่เป็นธรรม ถ้ายังคงเลือกเพราะเป็นเส้นทางแห่งความมั่งคั่ง ความยุติธรรมจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้
.
ตาชั่งเอียงตั้งแต่เริ่มต้น ยากที่ตาชั่งจะกลับมาอยู่ในดุลย์
.
ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=4120524581403873&set=a.153548494768188


กำลังโหลดความคิดเห็น