xs
xsm
sm
md
lg

หมูแผ่น หมูหยอง ของอร่อยที่ต้องระวัง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ความเค็มที่ซ่อนอยู่
การยืดอายุอาหาร จำเป็นต้องอาศัยเกลือเข้ามาช่วยให้อาหารอยู่นานมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่เพิ่มรสชาติเท่านั้น ดังนั้นอาหารที่อยู่ได้นานส่วนใหญ่จะมีความเค็มสูงกว่าที่เราจะสามารถจินตนาการได้จากข้อมูลในท้องตลาดพบว่าหมูแผ่น หมูหยอง มีโซเดียมอยู่ประมาณ 400 – 900 mg ต่อ 30 กรัม เลยทีเดียว ดังนั้นควรดูฉลากโภชนาการประกอบการซื้อแล้วเลือกยี่ห้อที่มีโซเดียมน้อยที่สุดก็จะดีกว่านั่นเอง

ความหวานปริมาณมาก
น้ำตาลเองก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้อาหารอยู่ได้นานกว่าปกติ และเพิ่มรสชาติอาหารด้วย ทั้งหมูแผ่น และหมูหยอง โดยส่วนใหญ่จะมีรสชาติหวานนำ ปริมาณน้ำตาลในอาหารเหล่านี้จึงถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ในท้องตลาดพบว่าหมูแผ่น หมูหยอง มีน้ำตาลอยู่ราว ๆ 10 – 20 กรัม ต่อ 30 กรัม การอ่านฉลากจึงเป็นการคัดกรองระดับหนึ่งในการเลือกกินอาหารกลุ่มนี้

ไนเตรต และ ไนไตรท์ ยืดอายุอาหาร แต่อาจลดอายุเรา
ไนเตรท และ ไนไตรท์ ถือว่าเป็นวัตถุกันเสีย ที่ช่วยยืดอาหารให้ยาวนานมากขึ้น ทำหน้าที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในอาหาร ทำให้เรากินแล้วไม่เสี่ยงต่อโรคอาหารเป็นพิษที่ร้ายแรง และทำให้สีของอาหารออกเป็นสีชมพูดูน่ากินมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าไนเตรท และ ไนไตรท์ในอาหาร มีโอกาสที่จะทำปฏิกิริยากับสารกลุ่มเอมีนในเนื้อสัตว์ และเกิดสารก่อมะเร็ง ที่ชื่อว่า ไนโตรซามีน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ

การทดสอบ ระดับไนเตรท และไนไตรท์ ในอาหารจะต้องทำโดยใช้ชุดตรวจเฉพาะ และทำโดยผู้ที่เชี่ยวชาญ ผู้บริโภคจึงไม่สามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง

ดังนั้น สิ่งที่เราต้องปฏิบัติก่อนเมื่อซื้อหมูแผ่น หมูหยอง หรือเนื้อสัตว์แปรรูปใดๆ มาแล้วก็คือ

1.สังเกตหน้าตาอาหาร ว่ามีสีไม่แดงจัดเกินไป หีบห่ออยู่ในลักษณะที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีรอยรั่ว

2.เลือกหมูแผ่น หมูหยอง ที่มีตราสินค้า สถานที่ผลิต ส่วนประกอบสำคัญ และ เลข อย. ชัดเจน ที่สำคัญคือควรมีการบอกวันที่ผลิตและวันหมดอายุด้วย

3.อ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อ ควรเลือกที่มีน้ำตาลและโซเดียมไม่สูงมากเกิน ถ้าให้ดีที่สุดคือ เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลและโซเดียมน้อยที่สุดในบรรดาคู่เทียบ อาจจำเป็นตัวเลขคร่าวๆ ต่อหนึ่งเสิร์ฟน้ำตาลไม่ควรเกิน 8 กรัม หรือโซเดียมก็ไม่ควรเกิน 400 mg

4.กำหนดจำนวนครั้งและความถี่ในการกินไม่ให้มากไป
ในการกินแต่ละครั้ง ไม่ควรกินเกิน 2 ช้อนกินข้าว (ช้อนโต๊ะ) ต่อวัน โดยแนะนำว่าควรกินไม่เกิน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และถือเป็นโควตาอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปตัวอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม ไส้อั่ว ไส้กรอกอีสาน ที่เราไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป

5.หาตัวช่วยเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ เช่น วิตามิน ซี และ อี
ควรกินคู่กับอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มพืช ผัก ผลไม้ ได้แก่ พืชผัก ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บร็อคโคลี่ พริกหยวกสีต่างๆ มันฝรั่ง มะนาว มะเขือเทศ และอาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น ถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง เราสามารถนำอาหารเหล่านี้มาทำเป็นเมนูยำใส่ผักเพิ่ม หรือ ทำผัดผักรับประทานเพิ่มคู่กันก็ย่อมมีประโยชน์กว่ารับประทานแต่ หมูแผ่น หมูหยอง คู่กับข้าวอย่างเดียวแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น