ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ / หมู น้ำตกเลือดสด ๆ
เมนูนี้เสี่ยงเชื้อแบคทีเรีย STREPTOCOCCUS SUIS เป็นโรคหนึ่งที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน สามารถถ่ายทอดสู่คนโดยการสัมผัสโดยตรงและการกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ซึ่งจะนำมาสู่เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบ ม่านตาอักเสบ ฯลฯ ซึ่งในรายที่มีอาการรุนแรงอาจติดเชื้อในกระแสเลือดถึงตายได้
ข้าวผัดค้างคืน อุ่นซ้ำ
เมนูนี้เสี่ยงแบคทีเรีย BACILLUS CEREUS สามารถพบได้ทั่วไปในฝุ่น ควัน และ ปะปนมากับอาหารแห้ง เช่น น้ำตาล วัตถุเจือปนอาหาร เครื่องเทศ และพบบ่อยในอาหารกลุ่มแป้ง เช่น ข้าวหุงสุก เส้นก๋วยเตี๋ยว พาสต้า อาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น ข้าวกึ่งสำเร็จรูป โดยอาจเป็นอันตรายส่งผลให้อาหารเป็นพิษขั้นรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
สลัดผักสดที่ล้างไม่สะอาด
อาจเสี่ยงต่อพยาธิไส้เดือน ส่งผลให้อ่อนเพลีย ปวดท้องเรื้อรัง ดังนั้นก่อนจะรับประทานเมนูนี้อย่าลืมล้างผักเพื่อลดสารพิษตกค้างก่อนเสมอ
4 วิธีล้างผัก เพื่อลดสารพิษตกค้าง
วิธีแรกที่ใช้กันมากก็คือ ล้างด้วยด่างทับทิม เราพบว่าวิธีนี้ล้างออกได้แค่ 20-30 เปอร์เซ็นต์
วิธีที่ 2 ล้างด้วยน้ำส้มสายชู ล้างออกได้ 30-40 เปอร์เซ็นต์
วิธีที่ 3 ล้างด้วยเบกกิ้งโซดา วิธีนี้ล้างออกได้แค่ 30-40 เปอร์เซ็นต์
วิธีที่ 4 ล้างด้วยวิธีน้ำไหล สามารถล้างสารตกค้างได้ถึง 60-70 เปอร์เซ็นต์ โดยให้แยกใบออกมาในน้ำและแช่ผัก 10 นาที หลังจากนั้นก็เปิดน้ำให้ไหลตลอด จากนั้นก็นำขึ้นมาถูใบและถูก้าน ประมาณ 2 นาที น้ำจะช่วยกำจัดชะล้างสารเคมีที่อยู่บนผิวผักออกไปได้ ในแง่ของคนกินผักผลไม้ก็ต้องระวัง เพราะเรามีข้อมูลว่ามันปนเปื้อน ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือต้องล้างผักและผลไม้ก่อนรับประทาน
ข้าวไข่ดิบ
มนูนี้เสี่ยงต่อแบคทีเรีย SALMONELLA เป็นแบคทีเรียที่ทําให้อาหารเป็นพิษ อาการจะเกิดขึ้นหลังจากการรับประทานอาหารปนเปื้อนแล้วประมาณ 6-48 ชั่วโมง สำหรับอาการทั่วไปคือ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้อง ปวดศีรษะ หนาวสั่น อ่อนเพลีย โดยความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อที่บริโภค และความต้านทานของผู้บริโภค
ปลาร้าดิบ
เสี่ยงต่อพยาธิใบไม้ตับ เกิดจากการกินอาหารไม่ปรุงสุก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดี