พิษณุโลก - อธิบดีกรมราชทัณฑ์ตรวจเรือนจำพิษณุโลก..ยังไม่ปักใจเชื่ออาหารเป็นเหตุทำผู้ต้องขังป่วยไทรอยด์เป็นพิษป่วย-ตาย บอกรอผลแล็บก่อน ระบุผู้เสียชีวิตในเรือนนอนไม่มีอาการทุรนทุราย แค่พลิกตัวถีบผ้าห่มออกแล้วเสียชีวิต
วันนี้ (6 ม.ค.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เข้าตรวจเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก พร้อมประชุมหารือและวางแผนปฏิบัติการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค หลังมีผู้ต้องขังป่วยไทรอยด์เป็นพิษ เสียชีวิตไล่เลี่ยกัน 4 ราย ส่วนอีก 1 รายเสียชีวิตด้วยสาเหตุอื่น นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่ต้องส่งไปรักษาตามโรงพยาบาล 3 แห่งเกือบ 50 ราย และต้องเฝ้าระวังทางยาอีกหลายร้อยราย
อธิบดีกรมราชทัณฑ์เปิดเผยว่า ดูสถานการณ์แล้วยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งกรมควบคุมโรคและสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกตั้งข้อสังเกตไว้ว่าผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดจากการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนของไทรอยด์ ทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เกิดภาวะโพแทสเซียมต่ำ มือเท้าอ่อนแรง บางรายมีอาการมากจะเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม นับจาก 29 ธ.ค. 62-4 ม.ค. 63 มีผู้ต้องขังเสียชีวิต 4 คน กรมราชทัณฑ์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ระดมแพทย์-พยาบาลเข้ามาช่วยเหลือเต็มที่
โดยได้คัดครองผู้ต้องขังที่มีชีพจรเกินกว่า 100 ครั้งต่อนาทีออกมาจำนวน 610 คน เพื่อตรวจละเอียดและรับตัวเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ ประมาณ 50 คน เช่น รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวร 25 คน รพ.วังทอง 4-5 คน รพ.พุทธชินราช 5 คน ฯลฯ และพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) กระทรวงสาธารณสุขจะเจาะเลือดผู้ต้องขังทั้งหมด 3,000 กว่าราย เก็บตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์ คัดกรองโรคในห้องแล็บ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะทราบผล
พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวอีกว่า กรณีผู้เสียชีวิต 4 รายในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าเสียชีวิตในเรือนนอนทั้งหมด ไม่มีการทำร้ายหรือฆาตกรรม ผู้เสียชีวิตไม่มีอาการทุรนทุรายหรือร้องโวยวาย เห็นเพียงพลิกตัวไปมาถีบผ้าห่มออกแล้วก็เสียชีวิต
ส่วนการตรวจอาหารเพื่อหาสาเหตุของโรคนั้นต้องรอผลตรวจอีกครั้งหนึ่ง ยังไม่ปักใจเชื่อว่าอาหารปนเปื้อนจริงหรือไม่ กรมราชทัณฑ์ก็มีผู้ตรวจราชการของกรมฯ มาเก็บข้อมูลไปตรวจสอบด้วย ผู้ตรวจราชการกรมฯ ก็เข้ามาตรวจสอบและทำหนังสือไปแล้วกำลังรอผลสรุป ถ้าหากผลออกมาว่าอาหารปนเปื้อน อาหารไม่ดี ก็จะพิจารณาข้อบกพร่องทางวินัย ส่วนเรื่องทางปกครอง ขอเวลาประมวลข้อมูลอาจจะใช้มาตรการทางการปกครองในการย้ายสับเปลี่ยน
ทั้งนี้ การจัดอาหารเข้าเรือนจำนั้น กรมราชทัณฑ์ใช้วิธีจัดซื้อด้วยวิธีคัดเลือกตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง 2560 ประกอบกับกฎกระทรวงการคลัง กรณีเรือนจำพิษณุโลก เป็นผู้ประกอบการในองค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และมีสหกรณ์ต่างๆ ในพื้นที่ หลายรัฐวิสาหกิจตั้งตัวแทนแล้วมาแข่งขันกัน ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์เคยทำหนังสือแจ้งไปยังรัฐวิสาหกิจที่ส่งวัตถุดิบไม่ตรงสเปกเหมือนกัน
“ผมรับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้มาเยียวยาดูแลบำรุงขวัญผู้ต้องขัง วันนี้ได้บอกผู้ต้องขังให้สบายใจ เพียงแต่สังเกตอาการตนเอง เราจะตรวจและคัดกรองและบำบัดรักษาอย่างดี รวมทั้งได้พูดกับญาติมิตรที่มาเยี่ยมให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดี”
อย่างไรก็ตาม เรือนจำพิษณุโลกมีผู้ต้องขัง 3,000 กว่าราย มีพยาบาล 2 คน เจ้าหน้าที่ 120 คน แต่ไม่มีแพทย์เลย ถือว่าเป็นภาระค่อนข้างหนัก แต่หลังเกิดเหตุก็มีการระดมบุคลากรทางการแพทย์ และจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือผู้ต้องขังตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รวมทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งเรือนจำกลาง ทัณฑสถานหญิงที่ไม่เกิดโรคเข้ามาช่วยดูแลด้วย เชื่อว่าจะควบคุมสถานการณ์เจ็บป่วยได้
ส่วนมาตรการการเพิ่มแพทย์และพยาบาลในเรือนจำนั้น ต้องทราบก่อนว่าขณะนี้ประชากรผู้ต้องขังมีมาก หากคำนวณอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันนี้ควรมีผู้ต้องขังเพียง 120,000 คน แต่ ณ วันนี้ผู้ต้องขังมีมากถึง 370,000 คน ฉะนั้น มองแค่อัตรากำลังเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่เพียงพอ แม้ปีนี้มีงบสร้างโรงพยาบาลราชทัณฑ์แห่งที่ 2 มีแพทย์และบุคลากรเพิ่ม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
นายธรรมนูญ ทองสุข ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานที่ ร้านที่เป็นตัวแทนองค์การคลังสินค้าส่งวัตถุดิบประกอบอาหารให้เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกแล้ว และเก็บวัตถุดิบประกอบอาหารของเรือนจำพิษณุโลก เบื้องต้นพบว่ามีเอกสารการเคลื่อนย้ายซากสัตว์ (ร.๔) ถูกต้อง นอกจากนี้ได้เก็บตัวอย่างเนื้อจากสถานที่เก็บวัตถุดิบประกอบอาหารของเรือนจำพิษณุโลก เพื่อตรวจหาสารตกค้างและเชื้อโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนแล้ว ซึ่งต้องรอผลตรวจก่อน
