xs
xsm
sm
md
lg

เทคนิค แก้เมารถ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แก้เมารถ

1. นั่งแถวหน้า เพราะการนั่งตรงส่วนหน้าของรถ และมองไปข้างหน้า จะทำให้ทั้งตาและหูของเรารับรู้การเคลื่อนไหวของรถไปพร้อมๆ กับอวัยวะควบคุมการทรงตัวที่อยู่ในหูชั้นใน จึงมีโอกาสเมาน้อยกว่า

2. จินตนาการว่าตัวเองเป็นคนขับรถเสียเอง คนขับจะไม่เมารถ เพราะเวลารถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็คาดการณ์ได้ล่วงหน้า และรู้ตัวขณะที่ร่างกายต้องหมุนเลี้ยวตามรถ สมองก็จะเกาะติดสถานการณ์ได้ชัดเจนขึ้น ไม่สับสน

3. มองไปไกลๆ จับเส้นขอบฟ้าไว้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สมองมั่นใจว่าอะไรอยู่บน อะไรอยู่ล่าง อะไรอยู่ซ้าย อยู่ขวาสมองจะได้ทราบสถานะและตำแหน่งของตัวเองได้ถูกต้อง

4. อย่าอ่านหนังสือ หรือตั้งใจมองอะไรที่เป็นของเล็กๆ และเขย่าหรือเคลื่อนไหวบนรถ เพราะการเคลื่อนไหวของตัวเรากับวัตถุในรถจะไม่สอดคล้องกัน ทำให้สมองสับสนตำแหน่งที่แท้จริงของตัวเอง

5. ตั้งศีรษะให้ตรง เวลารถเลี้ยวก็ตั้งใจรู้ตัวว่ากำลังหันไปตามการเลี้ยวของรถ อย่าให้ศีรษะไปพิงกับส่วนของรถที่เขย่าไปตามแรงกระแทก และการเคลื่อนไหวถ้าจะพิงพนักก็ให้ใช้หลังพิงโดยให้ศีรษะตั้งตรง อย่าฟุบหน้าลงหรือเอนศีรษะไปพิงด้านข้าง จะทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพแกว่งไกวขณะที่รถเลี้ยวไปมา

6. อย่าสูบบุหรี่ หรือนั่งใกล้คนสูบบุห
Advertisement

รี่ เพราะแค่ได้กลิ่นควันบุหรี่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องมีการเคลื่อนไหวใดๆ ก็เมาได้แล้ว

แก้เมารถ

7. อย่าเห็นแก่กิน เพราะถ้ามีอาหารเต็มท้อง ก็มีแนวโน้มจะอาเจียนออกมาได้ง่ายเช่นกัน

8. ไม่กินของมันหรือเลี่ยน เพราะย่อยยากและค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานทำให้อาเจียนได้ง่าย ระตุ้นให้ตัวเองหรือคนข้างๆ คลื่นไส้อาเจียน

9. ไม่กินอาหารที่มีกลิ่นแรง อันจะกระตุ้นให้ตัวเองหรือคนข้าง ๆ คลื่นไส้อาเจียน

10. ไม่กินอาหารรสจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่เผ็ดจัด เพราะเวลาอาเจียนยิ่งถ้าพรูผ่านจมูกออกมาด้วยแล้วจะแสบแบบไม่รู้ลืม

11. ควรขับถ่ายให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง อย่าให้ปวดถ่ายจนต้องกลั้นอุจจาระขณะเดินทาง เพราะการกลั้นอุจจาระ จะทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ที่ปกติ จะไล่กันเป็นลูกระนาดจากบนลงล่างถูกติดเบรกเสียกระบวนไป

12. งดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะลำพังแค่ดื่มโดยไม่ต้องขึ้นรถก็เมาอยู่แล้ว

13. กินยาแก้เมารถ ก่อนออกเดินทาง 1/2 – 1 ชั่วโมง เช่น ยาแอนติ-ฮิสตามีนชื่อดรามามีน (Dramaine หรือ Dimenhydrinate) 1 เม็ด และพกยานี้ติดตัวไปด้วย ให้คาดหมายไว้เลยว่าหลังจากกินยาอาจทำให้มีอาการง่วงได้ ถ้าจะเดินทางไกล ยาอีกตัวที่ช่วยได้คือแผ่นพลาสเตอร์แปะแก้เมาชื่อทรานสเดิร์มสค็อป (Transderm Scop หรือ Scopalamine) โดยแปะไว้ที่หลังหูล่วงหน้าก่อนเดินทาง 2 – 3 ชั่วโมงขึ้นไปยานี้จะมีฤทธิ์ป้องกันได้นาน 72 ชั่วโมง

14. ดื่มน้ำอัดลมในปริมาณพอเหมาะ สำหรับบางคนที่มีอาการท้องไส้ปั่นป่วนมาก

แก้เมารถ หายใจ

15. สูดหายใจลึกๆ รับลมเย็นๆ จากหน้าต่างรถ หรือใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าผากและหน้า ช่วยลดอาการวิงเวียนได้

16. ใช้ยาดม ยาลม ยาหอม และกลิ่นพืชสมุนไพรตามที่แต่ละคนชอบ รวมไปถึงการดมกลิ่นเปลือกส้มเขียวหวาน (บีบให้มันพ่นกลิ่นออกมา) และกลิ่นเปลือกพริกขี้หนู (เอาพริกขี้หนูหลายๆ เม็ดใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ) จะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนได้

17. จิตวิทยาก็สำคัญ วางฟอร์มตั้งสติ ไม่ยอมแพ้แก่การเมา จะช่วยได้มาก เพราะสมองรับอิทธิพลจากสัญญาณทั้งที่มาจากจิตสำนึกและจากประสาทอัตโนมัติ ควรคอยบอกตัวเองว่าอย่าเสียฟอร์มต่อหน้าคนอื่นนะ คู่สนทนาขณะเมารถต้องเป็นคนที่ดึงจิตเราให้สูงขึ้น เช่นเป็นคนให้กำลังใจ อย่าสนทนากับคนที่กำลังพ่ายแพ้แก่อาการเมาเหมือนกัน จะพากัน…อ้วก-ก-ก

18. กดจุด ในวิชากดจุดของจีนโบราณเขาว่า จุดคุมอาการเมาอยู่ที่เหนือข้อพับด้านในของข้อมือขึ้นไปสัก 1 นิ้วลองกดปล่อยๆ บริเวณนั้นดูก็ได้ เผื่อฟลุคได้ผล

19. นอนหลับ หากทำท่าจะแพ้หมดแรงสู้ ให้นอนลงแล้วหลับตา เพื่อปิดการส่งสัญญาณภาพเข้าสมองเป็นการลดความสับสน ให้สมองได้รับสัญญาณจากอวัยวะควบคุมการทรงตัวที่อยู่ที่หูชั้นในเพียงอย่างเดียว อาการจะดีขึ้น ถ้าม่อยหลับไปจริงๆ เลยได้ยิ่งดี เพราะขณะนอนหลับ สมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายจะปิดรับสัญญาณใดๆ จึงทำให้อาการเมารถหายไปได้เอง

แก้เมารถ นอนหลับ

นอกจากนี้สำหรับคนที่ลองทำทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล แนะนำให้ลงจากรถแล้วหาที่ตั้งสติปรับสมดุลของร่างกายสักครู่แล้วค่อยออกเดินทางต่อ การที่ร่างกายได้พักและปรับตัวจะทำให้อาการเมารถลดลงได้เช่นกันครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น