1.เครื่องดื่มหรือน้ำอัดลมปลอดน้ำตาล
นอกจากดับกระหายให้ความสดชื่นแล้ว น้ำอัดลมเองไม่ได้มีคุณประโยชน์อะไรต่อสุขภาพมากนัก นานๆ ดื่มทีไม่เป็นไร แต่ถ้าดื่มทุกวันหรือดื่มแทนน้ำเปล่าเลย ออกจะน่ากลัว ทั้งสารให้ความหวาน สารเคมีแต่งกลิ่น รสและสี เมื่อผสมผสานกันแล้วอาจกลายเป็นสูตรค็อกเทลก่อมะเร็งได้เลย แนะนำว่าให้ดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด
2. น้ำผลไม้ ก็ดูเหมือนจะดีต่อสุขภาพแต่ก็ต้องรู้จักเลือก น้ำผลไม้บางยี่ห้อผสมน้ำตาลมากเกินไป บางยี่ห้อแต่งกลิ่นสีและรส และบางยี่ห้ออาจเป็นน้ำผลไม้แท้ 100% ไม่ผสมน้ำตาลเลย แต่รู้ไหมว่า ผลไม้บางอย่างน้ำตาลสูงมากอยู่แล้ว ดื่มบ่อยๆ ก็อ้วนได้ น้ำผลไม้หากจะให้ดีคั้นเสร็จดื่มทันทีก่อนที่วิตามินซีจะละลายหายไป จะให้ดีที่สุดควรรับประทานผลไม้เป็นผล น้ำตาลจะน้อยกว่าแบบคั้น แถมได้ไฟเบอร์ครบครันอีกด้วย
3.อาหารว่างเป็นซองๆ เช่น ถั่วต่างๆ และเมล็ดพืช อาทิ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง พยายามเลือกแบบ อบแทนแบบทอด ให้เลือกแบบไม่ปรุงรสแทนแบบโรยเกลือหรือคลุกน้ำตาล หรือคลุกช็อกโกแลต แบบทอดเราไม่สามารถหยั่งรู้ว่าน้ำมันที่ใช้ทอดเก่าหรือใหม่แค่ไหนได้เลย ส่วนเกลือ อาหารแต่ละมื้อมีเกลือมากพออยู่แล้ว รับประทานเยอะไปทำให้ความดันเลือดสูงอีก น้ำตาลเป็นตัวทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
4.โยเกิร์ต อันนี้ดีต่อสุขภาพเนื่องจากมีโปรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ดี ที่มีประโยชน์ต่อระบบการย่อยอาหาร แต่โยเกิร์ตโดยทั่วไปมักแต่งเติมรสชาติโดยการ เพิ่มน้ำตาล เพิ่มรส เพิ่มกลิ่นเพื่อความอร่อย ซึ่งน้ำตาลที่เพิ่มมา เท่ากับแคลอรี่ที่มากตามไปด้วย ขณะที่สารปรุงแต่งทั้งหลายอาจจะสนองความอร่อยปากแต่เป็นของเกินความจำเป็นที่ร่างกายเราไม่ได้ต้องการ
หมายเหตุ
- ควรเลือกซื้อโยเกิร์ตรสธรรมชาติไม่ผสมน้ำตาลจะดีที่สุด และเติมถั่ว หรือธัญพืช หรือผลไม้สดเข้าไป ซึ่งน้ำตาลที่มาจากผลไม้สดจะช่วยเพิ่มรสชาติได้ หรือไม่ก็ลองผสมน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อยก็ได้เช่นกัน เท่านี้ก็ได้คุณค่าทางโภชนาการ ที่สำคัญครบถ้วนแบบไม่ทำลายสุขภาพ
-โยเกิร์ตควรแช่ในความเย็นต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสนะค่ะ ไม่เช่นนั้นแล้ว โปรไบโอติกในโยเกิร์ตจะไม่มีชีวิตเหลือรอด
5ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง โดยปกตินั้น ในถั่วเหลืองจะมีไฟโตเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเอสโตรเจน ในพืชที่ว่ากันว่าช่วยให้ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ มะเร็งเต้านม และลดอาการวัยทองในสตรีหมดประจำเดือนได้ แต่ถ้าหากฮอร์โมนไม่สมดุล ร่างกายเราได้รับเอสโตรเจนที่มากเกิน ในทางกลับกัน เอสโตรเจนอาจเป็นสาเหตุของมะเร็งได้เลย ดังนั้น ผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูกจึงควรที่จะเลี่ยงผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองเพื่อจะได้ไม่เป็นการกระตุ้นอาการ