ช่วงนี้อากาศกำลังเปลี่ยนแปลง หลายคนก็เริ่มเจ็บคอตัวร้อน เป็นไข้ไม่สบาย อันบ่งบอกถึงอาการหวัด ในระหว่างระยะเวลานี้หลาย ๆ คนก็จะระมัดระวังตัวไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ด้วยการพยายามไม่ไอหรือจามในที่สาธารณะ แถมหาผ้าปิดปากมาคาดไว้อีกต่างหาก (ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่น่ารักมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมาก ๆ เลย ขอชื่นชมนะจ๊ะ) นอกจากนี้เหล่าคนมีคู่ก็จะระวังตัวแจ ไม่ยอมเมาท์ทูเมาท์จูบปากกับคนรัก เพราะกลัวว่าจะพาลแพร่เชื้อให้แฟนติดหวัดไปด้วยน่ะสิ...แต่รู้ไหมว่าที่จริงหวัดไม่ได้ติดกันง่าย ๆ ผ่านการจูบหรอกนะ !! ของอังกฤษ เผยผลการวิจัยน่าสนใจจากบริษัทยาลดน้ำมูก Otrivine ที่จะทำให้คุณต้องคิดใหม่เกี่ยวกับเรื่องการแพร่เชื้อหวัด เพราะเขาบอกว่า เชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นหวัดนั้นไม่ได้แพร่ติดกันผ่านการจูบ เนื่องจากเชื้อตัวนี้ไม่ได้อยู่ในน้ำลาย แต่มันอยู่ในน้ำมูกต่างหาก ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสติดเชื้อจากการจับมือถือแขนกันได้ง่ายกว่าเสียอีก เพราะเชื้อไวรัสปนเปื้อนไปบนมือระหว่างที่เราฮึดน้ำมูก เมื่อไปจับมืออีกฝ่ายเข้าแล้วคนนั้นก็ใช้มือไปแคะจมูก เชื้อก็เข้าไปซุกในโพรงจมูกแล้วลงไปตามทางเดินหายใจ จากนั้นก็บ่มตัวพร้อมแผลงฤทธิ์ หรือเมื่อใช้มือขยี้ตาเชื้อก็วิ่งผ่านท่อน้ำตาลงไปยังโพรงจมูกแล้วเข้าไปถึงทงาเดินหายใจได้เช่นกัน
ส่วนโอกาสที่จะติดหวัดผ่านการจูบกันนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณเป็นหวัดแล้วมีอาการไอมาก ๆ จนเมือกในทางเดินหายใจถูกดันขึ้นมาถึงคอ (มันคือ "เสมหะ" นั่นเอง) แล้วเข้าปนเปื้อนกับน้ำลาย หากมีอาการอย่างนี้เมื่อจุ๊บก็มีสิทธิ์ติดหวัดได้
ได้ฟังอย่างนี้แล้วก็บอกได้เลยว่า การล้างมือบ่อย ๆ ก่อนจูงมือกัน สำคัญยิ่งกว่าการระวังตัวไม่ให้จูบเสียอีกนะจ๊ะ แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ตอนป่วยไม่สบายก็คงจะค่อยไม่มีอารมณ์ไปประกบปากกับใครหรอกเนอะ พักผ่อนกินยาเสียให้หาย แล้วค่อยสานต่อเรื่องกุ๊กกิ๊กดีกว่านะตัวเอง :P