สุขภาพดีได้ง่าย ๆ ด้วยการเลี้ยงสัตว์ ใครไม่เชื่อว่าแค่เลี้ยงน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ แล้วจะเพิ่มความสุข ฟิตสุขภาพให้คุณได้ รีบมาดูคำยืนยันทางการแพทย์กันเลย
ว่ากันว่าความน่ารักของสัตว์เลี้ยงจะช่วยเยียวยาความทุกข์ใจ ไม่สบายกายให้เราได้ชะงัด ยิ่งถ้าได้ใช้เวลาคลุกคลีกับเจ้าสัตว์แสนรู้ก็จะยิ่งเพิ่มอณูความสุขให้เราได้มากขึ้น หรืออย่างน้อย ๆ ก็จะหลงลืมความทุกข์ใจไปได้ชั่วคราว และที่เกริ่นมาทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้นั่งเทียน เขียนกันลอย ๆ ด้วยนะคะ เพราะเรามีข้อมูลจากเว็บไซต์ Health มายืนยันให้เห็นกันเลยว่า 12 เหตุผลดี ๆ ต่อไปนี้นี่แหละ ที่ทำให้การเลี้ยงสัตว์ช่วยฟิตสุขภาพให้เริ่ด เพิ่มความสุขเว่อร์ๆ ให้คุณได้
1. เลี้ยงน้องหมา ลดคอเรสเตอรอลได้ชิล ๆ
มีงานวิจัย และผลการศึกษาถึง 2 สถาบันที่การันตีเป็นเสียงเดียวกันว่า แค่เลี้ยงสุนัข พาเขาไปเดินเล่น และเล่นกับเขาบ่อย ๆ แค่นี้ก็ช่วยปรับระดับคอเรสเตอรอลในร่างกายให้คุณได้อย่างชิล ๆ แถมยังส่งผลให้ระดับไตกลีเซอไรด์ในร่างกายลดลงด้วย
2. แค่มองสัตว์เลี้ยง ก็คลายเครียดได้
ช่วงเวลาที่เราได้อยู่ใกล้ชิดสัตว์เลี้ยง หรือได้มองเห็นเขาเดิน เล่น ใช้ชีวิตตามปกติของตัวเอง หลายคนจะรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจขึ้นมาก ซึ่งแพทย์ก็ชี้แจงว่า การคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารสื่อประสาท (Neurochemical) และออกซิโตซิน (Oxytocin) ออกมา ก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นสุข เท่ากับช่วยลดระดับคอร์ติซอล (Cortisol) และฮอร์โมนความเครียดที่มีอยู่ลงไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการวิจัยแสดงให้เห็นอีกว่า การเล่นกับสัตว์เลี้ยง สามารถบรรเทาอาการโรคเครียดจากเหตุร้าย (PTSD = post-traumatic stress disorder) ได้อีกทางหนึ่งด้วย
เคล็ดลับสุขภาพ
3. ลดความดันโลหิต
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในนิวยอร์กทำการวิจัยแล้วพบว่า ในกลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่เลี้ยงน้องหมา หรือน้องแมวไว้ในความครอบครอง และลูบคลำเจ้าสี่ขาบ่อย ๆ มีแนวโน้มจะปรับระดับความดันโลหิตให้ต่ำลงจากเดิมได้เกือบครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยโรคเดียวกัน แต่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์
4. ยิ่งเล่น ยิ่งฟิตเฟิร์ม
แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย สโลแกนนี้ยังเป็นจริงอยู่ทุกเมื่อค่ะ โดยเฉพาะคนที่เลี้ยงน้องหมา หรือน้องแมว และต้องพาจอมซนไปเดินเล่นบ่อย ๆ ผลวิจัยจากอเมริกาก็การันตีไว้เลยว่า Pet Lover เหล่านี้มีแนวโน้มได้ฟิตเฟิร์มร่างกายมากกว่าคนทั่วไปถึง 56% หรือเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็ได้ว่า คนที่เลี้ยงสัตว์จะเดินราว ๆ 300 นาทีต่อสัปดาห์ ในขณะที่คนไม่ได้เลี้ยงสัตว์ จะมีอัตราการเดินเพียงแค่ 168 นาทีต่อสัปดาห์เท่านั้น ต่างกันไม่เบาเลยเนอะ
5. ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง เท่ากับลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
การออกกำลังกายจะช่วยลดความเสี่ยงโรคความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งก็สอดคล้องกับงานวิจัยที่บอกว่า การเลี้ยงสัตว์จะช่วยเปิดโอกาสให้คุณได้ขยับร่างกายบ่อยขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปด้วยในตัว ดังนั้นเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายก็เฮได้เลยค่ะ เพราะเรามีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจต่ำลงแล้ว
เคล็ดลับสุขภาพ
6. เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
การปล่อยให้สัตว์เลี้ยงคลุกคลีอยู่กับเด็กเล็ก เป็นเรื่องที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลอยู่ไม่น้อย ด้วยเกรงว่าน้องหมา น้องแมวจะเป็นต้นเหตุให้ลูกรักเป็นโรคภูมิแพ้ แต่จริง ๆ แล้วแพทย์ได้ชี้แจงว่า ช่วงอายุ 6 เดือนแรกของเด็กทารก จะเป็นช่วงที่เขาสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ดังนั้นการใกล้ชิดกับน้องหมา น้องแมวจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นห่วงนัก แต่กลับให้ผลลัพธ์ที่ดีในเรื่องสร้างภูมิคุ้มกันโรคภูมิแพ้ โรคผิวหนัง โรคไข้ละอองฟาง รวมทั้งโรคทางระบบหายใจอื่น ๆ แทนต่างหาก
7. กำจัดความรู้สึกกดดันได้ชะงัด
ปกติแล้วสัตว์เลี้ยงจะคุ้นเคย และค่อนข้างจงรักภักดีกับเจ้าของ การแสดงออกด้วยความไร้เดียงสาของน้องหมาน้องแมวเลยดูเข้าข้าง และรักเจ้าของมากกว่าบุคคลอื่น ๆ ซึ่งทางจิตวิยาก็ชี้แจงว่า ลักษณะท่าทางจงรักภักดีของสุนัข สามารถเยียวยาความรู้สึกกดดัน ไม่มั่นใจในตัวเอง และความรู้สึกลดคุณค่าของตัวเองในมนุษย์ได้ชะงัด อีกทั้งการแสดงความรักซึ่งกันและกันยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจให้ทั้งคน และสัตว์เลี้ยงไปพร้อม ๆ กันด้วยนะคะ
8. บรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรังอย่างเห็นผล
ยืนยันด้วยผลการวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งหนึ่งในอเมริกาที่พิสูจน์แล้วว่า ผู้ป่วยโรคข้อที่อยู่ในสภาวะพักฟื้นหลังการผ่าตัด จะมีอาการดีขึ้นเมื่อได้อยู่กับสัตว์เลี้ยง เนื่องจากความน่ารักของเหล่าสัตว์สี่ขา จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข หรือที่รู้จักกันดีในชื่อสารเอ็นดอร์ฟินออกมา ซึ่งเจ้าสารตัวนี้ก็มีฤทธิ์ไม่ต่างอะไรกับยาแก้ปวด ที่จะเข้าไปช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดในร่างกายได้อย่างเห็นผลโดยชัดเจน หรือแม้แต่กับคนที่เริ่มมีอาหารปวดตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย แค่ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงก็จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้เหมือนกันนะคะ
เคล็ดลับสุขภาพ
9. เสริมบุคลิก และทักษะความสัมพันธ์
ถึงจะประกาศตัวว่าเป็นทาสแมว หรือทาสน้องหมา แต่ยังไงเจ้าของสัตว์เลี้ยงก็มีอำนาจ และเป็นฝ่ายควบคุมจอมซนสี่ขาอยู่ดี และความได้เปรียบในข้อนี้ก็จะช่วยเสริมทักษะในการเป็นผู้นำ รวมทั้งเติมเต็มความกล้าพูดคุย กล้าแสดงออกให้คุณโดยทางอ้อมด้วย
10. เป็นสัญญาณเตือนเรื่องสุขภาพ
สุนัขจัดว่าเป็นสัตว์ที่ไวต่อกลิ่น และเสียงอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเกิดขึ้นกับเจ้าของ สุนัขก็จะส่งสัญญาณด้วยท่าทางบางลักษณะ เป็นต้นว่า หากเจ้าของมีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว และในขณะนั้นเกินภาวะน้ำตาลต่ำ หรืออยู่ในสภาวะกรดเกินเนื่องจากสารคีโตน น้องหมาก็จับกลิ่นลมหายใจที่ผิดปกติไปได้ และอาจจะมาวอแว หรือเลียเนื้อตัวเจ้าของอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะทำให้คุณฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า น่าจะมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเราแน่ ๆ จนในที่สุดก็ต้องไปตรวจสอบกับแพทย์ให้แน่ใจ
เคล็ดลับสุขภาพ
11. ความไร้เดียงสาก่อให้เกิดความสบายใจ
อยู่กับสัตว์เลี้ยงบางทีก็รู้สึกสบายใจกว่าอยู่กับมนุษย์ด้วยกันเองว่าไหมคะ เพราะน้องหมาไม่มีการแบ่งแย่งชนชั้น ไม่แก่งแย่งแข่งกันเด่น ไม่พูดจาส่อเสียด ไม่ใส่หน้ากาก หรือว่าร้ายใคร แต่มีแค่ทีท่าไร้เดียงสา หน้าตาตลก ๆ กับตาใสแบ๊วที่คอยออดอ้อนคลอเคลียเราไม่ห่าง สร้างความสุขกาย สบายใจให้มนุษย์อย่างเรา ๆ ยอมเป็นทาสแมว ทาสหมาอย่างเต็มใจยิ่งเลยทีเดียว
12. เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว
หลายคนตัดสินใจซื้อสัตว์มาเลี้ยงก็เพื่อแก้เหงา หรือไม่ก็อยากให้น้องหมา น้องแมวเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว ซึ่งจริง ๆ แล้วประโยชน์ที่คุณได้รับจากสัตว์เลี้ยงยังมีเยอะกว่าที่ว่ามานี้ด้วยนะคะ โดยเฉพาะกับครอบครัวที่มีเด็กวัยกำลังซน หนู ๆ วัยกำลังเสริมทักษะต่าง ๆ ถ้าเขาได้เลี้ยงน้องหมา น้องแมวสักตัว เขาจะมีความเมตตามากขึ้น รู้จักการแบ่งปัน ช่วยให้เป็นเด็กร่าเริง และสอนให้เขารู้จักรับผิดชอบกับสิ่งมีชีวิตด้วยกันเองอีกด้วยค่ะ