เหตุผลหลัก ๆ ที่เราซื้อตู้เย็นมาใช้ที่บ้านก็เพราะอยากยืดอายุอาหารให้มีความสดใหม่ได้นานขึ้น ไม่เน่าเสียไปตามเวลาที่ควรจะเป็น แต่ถึงแม้จะแช่อาหารไว้ในตู้เย็นอย่างดี และหวังว่าจะสามารถรักษาอายุอาหารได้ประมาณ 1 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้อย่างที่หวัง อาหารเน่าบูดจนต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย หรือสภาพอาหารใกล้จะเสียอยู่รอมร่อ นำมากินก็คงไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก ซึ่งหากอยากเก็บอาหารให้ได้นานที่สุด เราก็มีเคล็ดลับมาฝากให้ได้ลองไปทำตามกันด้วยค่ะ
รักษาความเย็น
โดยปกติแล้วอาหารจะมีอายุได้นานกว่าเดิมก็ต่อเมื่อถูกแช่เย็นภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำกว่า 40 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 33-38 องศาฟาเรนไฮต์ จะดีที่สุด) ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ดีที่สุด ดังนั้นคุณต้องพยายามรักษาความเย็นในตู้เย็นให้ได้ในระดับนี้ โดยอาจจะหาเทอร์โมมิเตอร์มาติดบริเวณช่องชั้นกลางของตู้เย็น แล้วตรวจสอบอุณหภูมิวันละ 1 ครั้งเป็นประจำ หากว่าอุณหภูมิสูงกว่าที่แนะนำ ก็จะได้ปรับให้เหมาะสมได้ทันที
จัดระเบียบตู้เย็นให้เหมาะสม
เคล็ดลับที่จะช่วยให้ของสดในตู้เย็นไม่เน่าเสียก่อนเวลาอันควรก็ทำไม่ยาก เพียงแค่คุณจัดระเบียบของในตู้เย็นให้เหมาะสม อย่างอาหารที่เพิ่งซื้อมาใหม่ก็จัดวางไว้ด้านใน ถัดมาด้านนอกก็เป็นอาหารที่แช่เอาไว้ก่อนแล้ว โดยเรียงลำดับตามเวลาและความสดใหม่ของอาหารได้เลย แบบนี้เราจะได้หยิบอาหารที่ใกล้หมดอายุมากินก่อนจ้า
ตัดสินใจทิ้งก็ต่อเมื่อถึงเวลา
อาหารที่ซื้อมาจากห้างส่วนใหญ่มัจะมีวันหมดอายุบอกไว้อยู่แล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบสภาพอาหารให้ยุ่งยาก แต่สำหรับอาหารที่เราซื้อมาจากตลาดสด หรืออาหารที่ไม่มีวันหมดอายุบอกอย่างชัดเจน เราก็จำเป็นต้องรู้ระยะเวลาของอาหารไว้ด้วย เช่น ไข่ไก่จะเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3-5 สัปดาห์ เนื้อสัตว์ควรเก็บประมาณ 2-3 วันก็พอ เป็นต้น
เก็บลงกล่อง หรือถุงสูญญากาศ
อากาศมีส่วนช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาหารเน่าเสียเร็วขึ้น ฉะนั้นทางที่ดีเราก็เก็บอาหารสดลงกล่องที่มีฝาปิดมิดชิด หรือถุงแบบซิปล็อคไปเลยดีกว่า อาหารของเราก็จะสดใหม่ได้นานขึ้นอีกระยะหนึ่งอย่างที่ต้องการแล้วค่ะ