แล้วใช่ว่า วันไหนโชคดีขึ้นรถเมล์มีที่นั่งจะได้นั่งสบาย ๆ หรอกนะ เพราะเบาะเจ้ากรรมของรถเมล์แต่ละสาย แต่ละประเภท มีขนาดมาตรฐานเสียเมื่อไหร่ บางคันก็เบาะนุ่มแสนสบาย บางคันเก้าอี้ก็ตั้งฉาก ไม่ก็เอนหงายไปข้างหลังเสียเหลือกัน นั่งนาน ๆ รถติด ๆ แล้ว ปวดไปหมดทั้งตัว
ว่าแต่การนั่งรถเมล์เป็นเวลานาน ๆ บนเบาะที่ไม่รองรับสรีระร่างกายจะเกิดโรคอะไรขึ้นได้บ้าง มาดูกันเลย
โรคทางกระดูกและกล้ามเนื้อ
การนั่งท่าเดิมนาน ๆ แถมเบาะไม่พอดีกับกระดูกสันหลังของร่างกาย ทำให้เราต้องนั่งหลังเกร็งตั้งฉากให้พอดีกับเบาะตลอดเวลา ถ้านั่งท่านี้สัก 1 ชั่วโมงก็พอไหวอยู่หรอกค่ะ แต่ปกติแล้วร่างกายของมนุษย์จะทนกับการเกร็งแบบนี้ได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เช่นนั้นแล้ว หากบ้านอยู่ไกล หรือรถติดจนต้องนั่งเกร็งนานเกิน 1 ชั่วโมงแล้วล่ะก็ อาการอักเสบถามหาแน่นอน และหากนั่งท่านี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อจะตึงผิดปกติ แล้วอาการปวดเมื่อยหลังก็จะตามมาทันที ถ้าสะสมมาก ๆ อาจทำให้แนวกระดูกผิดปกติ หรือกระดูกคด กระดูกเคลื่อนได้เลย
นอกจากนี้ หากเป็นผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไปแล้ว เผลอ ๆ จะมีอาการกระดูกสันหลังเสื่อมตามมาด้วย
โรคระบบทางเดินอาหาร
ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะอาหาร ลำไส้ หากนั่งท่าเดิมนาน ๆ 2 ชั่วโมงขึ้นไปมากกว่า 1 สัปดาห์ จะทำให้กระเพาะอาหาร และลำไส้บีบตัวน้อยกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด ท้องผูก ตามมาได้
โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
อุ้ย...คุณผู้ชายรีบเข้ามาฟังด้วยสีหน้าสงสัยกันใหญ่ นั่งรถเมล์นาน ๆ แค่นี้ ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เชียวหรือ นั่นก็เพราะประเทศเรามีอากาศร้อน ดังนั้นหากนั่งนาน ๆ เกิน 2 ชั่วโมง ต่อเนื่องเป็นเดือน ๆ จะทำให้ถุงอัณฑะอยู่ในสภาวะไม่เหมาะสมในการผลิตสเปิร์ม ส่งผลให้มีบุตรยากตามมาได้
เห็นความน่ากลัวของโรคบนรถเมล์แล้วใช่มั้ยล่ะ แต่อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ไหน ๆ ชีวิตของเราก็หลีกเลี่ยงรถเมล์ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมีข้อแนะนำการนั่งที่ถูกต้องมาบอกกัน โดย
หากเป็นไปได้ เวลานั่งควรถ่ายน้ำหนักไปที่สะโพกด้านซ้ายและขวาอย่างละ 5 วินาที เพื่อให้กล้ามเนื้อและกระดูกได้ขยับบ้าง และควรทำทุก ๆ ชั่วโมง ครั้งละ 5-10 นาที
ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง เพราะจะยิ่งทำให้ปวดเมื่อย และกระดูกคดได้
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้กระดูกแข็งแรง
แต่ถ้าใครที่มีอาการปวดหลังแล้ว เราก็มีท่ากายบริหารคลายปวดหลังมาฝากกันด้วย โดย
1.นอนราบกับพื้น เหยียดแขนออกทั้งสองข้าง ให้ทั้งแผ่นหลังและท่อนแขนราบไปกับพื้น
2.ยกขาขวาไขว้ข้ามมาซ้าย เหยียดให้ตึงและไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ นับ 1 ถึง 10 แล้วสลับทำเช่นเดียวกัน ด้วยการยกขาซ้ายข้ามขาขวา สลับเหยียดๆ แบบนี้ข้างละ 5 ครั้ง
3.เมื่อทำครบ ให้นอนราบกับพื้น แล้วงอเข่าขวาขึ้นมา ใช้มือทั้งสองข้างเหนี่ยวดึงหัวเข่าให้งอพับเข้าใกล้หน้าอกที่สุด ผ่อนลมหายใจเข้าออก นับ 1 ถึง 5 แล้วปล่อยขาเหยียดตรง
4.ทำซ้ำเช่นเดียวกันกับขาซ้าย ข้างละ 10 ครั้ง