MGR ออนไลน์ - เหลือเวลาไม่ถึง 1 เดือนก่อนการเลือกตั้งตามแผนของรัฐบาลทหารพม่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้เรียกร้องให้ข้าราชการของประเทศเลือกผู้สมัครที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับกองทัพ ตามการรายงานของสื่อพม่า
ในการกล่าวปราศรัยต่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่วิทยาลัยข้าราชการพลเรือน โรงเรียนฝึกอบรมตำรวจ และสถาบันฝึกอบรมดับเพลิงกลาง ในเมืองปินอูละวิน ภาคมัณฑะเลย์ ผู้นำรัฐบาลทหารได้เรียกร้องให้ผู้เข้ารับการอบรมเหล่านี้สนับสนุนนักการเมืองที่สนับสนุนกองทัพ และยึดในคติ 3 ข้อคือการรักษาสหภาพไม่ให้แตกแยก การรักษาความสามัคคีในชาติ และการธำรงไว้ซึ่งอธิปไตย
สำนักข่าวอิรวดีระบุว่าคำกล่าวของพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเมื่อการเลือกตั้งใกล้มาถึง จากที่แรกเริ่มนั้นเรียกร้องให้เลือกผู้ที่จะรับใช้ผลประโยชน์ของชาติ กลายเป็นร้องขอให้สนับสนุนผู้สมัครท่ีมีมุมมองที่คำนึงถึงการป้องกันประเทศ และจากนั้นเป็นผู้ที่จะปกป้องเชื้อชาติและศาสนา และสุดท้าย ที่ชัดเจนที่สุดในเวลานี้คือ ผู้ที่จะให้ความร่วมมืออย่างสามัคคีกับกองทัพ
ในบรรดาพรรคการเมืองหลายสิบพรรคที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในเดือนธ.ค.-ม.ค. มีเพียงพรรคเดียวเท่านั้นที่ตรงตามข้อกำหนดของผู้นำการรัฐประหาร คือ พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ที่เป็นพรรคตัวแทนของกองทัพ สำนักข่าวอิรวดีระบุ
พรรค USDP ก่อตั้งขึ้นโดยนายพลก่อนการเลือกตั้งในปี 2553 เพื่อรักษาอำนาจภายใต้เครื่องแต่งกายพลเรือน ซึ่งแกนนำพรรคเต็มไปด้วยนายพลเกษียณอายุราชการ
ขิ่น ยี ประธานพรรค USDP ประสานงานกับกลุ่มชาตินิยมสุดโต่งที่เชื่อมโยงกับความรุนแรงทางศาสนา และได้พบปะกันเป็นประจำเพื่อหารือกลยุทธ์การเลือกตั้ง การที่พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เน้นย้ำเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา และความภักดีต่อกองทัพ จึงเป็นสัญญาณของการสนับสนุนพรรค USDP ที่เป็นตัวแทนของกองทัพ
มีพรรคการเมือง 57 พรรค เตรียมลงแข่งขันในการเลือกตั้งเดือนธ.ค.นี้ แต่พรรค USDP ส่งผู้สมัครเกือบ 2 เท่าของคู่แข่ง และถึงแม้พรรคอื่นๆ จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง แต่ก็ไม่มีพรรคใดเป็นคู่แข่งจริงจังของพรรค USDP
พรรคการเมืองหลักที่สนับสนุนประชาธิปไตยและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ถูกยุบโดยรัฐบาลทหาร ที่เปิดทางให้พรรค USDP ครองพื้นท่ีส่วนใหญ่
สำนักข่าวอิรวดีระบุว่าแผนการของรัฐบาลทหารมีความชัดเจน คือ USDP มุ่งมั่นที่จะได้เสียงข้างมากในรัฐสภา และพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดี ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2551 ที่ร่างขึ้นโดยกองทัพ ประธานาธิบดีถูกเลือกจากรองประธานาธิบดี 3 คน ที่ได้รับการเสนอชื่อจากสภาล่าง สภาสูง และผู้ได้รับการแต่งตั้งจากกองทัพที่ครองที่นั่งในสภาร้อยละ 25 คาดว่ามิน อ่อง หล่าย จะถูกเสนอชื่อโดยผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากกองทัพ และจะได้รับการลงคะแนนเสียงจากรัฐสภาตรายาง ที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านจากตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดี กลายเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
คำกล่าวล่าสุดของเขา ที่เรียกร้องให้สนับสนุนผู้สมัครที่สนับสนุนกองทัพ ไม่ใช่แค่วาทกรรม แต่เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ที่คำนวณมาแล้วเพื่อรักษาเส้นทางของตนเองสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี รายงานระบุ
ทั้งนี้ ประชาชนชาวพม่าส่วนใหญ่ยังคงไม่สนใจการเลือกตั้งของรัฐบาลทหาร ขณะที่รัฐบาลตะวันตก ตลอดจนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ และกองกำลังต่อต้าน ต่างปฏิเสธกระบวนการนี้โดยระบุว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เสรีและไม่ยุติธรรม ทุกฝ่ายมองว่าการเลือกตั้งของรัฐบาลทหารเป็นความพยายามที่จะปกปิดการปกครองของทหารที่จะดำเนินต่อไปโดยอ้างว่ามีความชอบธรรม.