MGR ออนไลน์ - รัฐบาลทหารพม่าทิ้งระเบิดใส่คลินิกแห่งหนึ่งในเขตมะเกวเมื่อวันเสาร์ (22) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเด็ก แม้จะไม่มีการสู้รบระหว่างกองกำลังทหารและกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลในพื้นที่ดังกล่าวก็ตาม ชาวเมืองเปิดเผยกับสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรี
เขตมะเกว (Magway) ที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของพม่า เต็มไปด้วยการสู้รบระหว่างกองกำลังทหารที่ยึดอำนาจมาจากการรัฐประหารในปี 2564 และกองกำลังติดอาวุธที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย มักเผชิญกับการโจมตีอย่างรุนแรงจากกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้
“เราพบศพ 11 ศพ และมีเด็ก 5 คน ทั้งหมดเป็นพลเรือน” ชาวเมืองกังเกา ที่ปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ระบุ
รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่เป็นรัฐบาลพลัดถิ่นยังยืนยันในวันอาทิตย์ (23) ว่าการโจมตีดังกล่าวได้สังหารนายแพทย์มา โซ อ่อง อายุ 40 ปี และพยาบาลข่าย นิน วาย ที่เป็นภรรยาของเขาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 4 เดือน ลูกชายวัย 5 ขวบของพวกเขา และคนไข้อีก 8 คน ที่กำลังรอรับการรักษา
นายแพทย์มา โซ อ่อง และพยาบาลข่าย นิน วาย เคยทำงานที่โรงพยาบาลอำเภอตินธา ในเขตสะกาย และเข้าร่วมในขบวนการอารยะขัดขืนต่อต้านการรัฐประหารอย่างสันติ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ประกอบด้วยการหยุดงานประท้วงและการชุมนุมขนาดใหญ่ ที่ถูกกองทัพเข้าปราบปรามอย่างรุนแรง
ทั้งคู่ยังคงรักษาคนไข้ในเขตสะกายและมะเกวต่อหลังจากลาออกจากงาน
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังเผยว่า ศพของพลเรือน 4 คน ที่ถูกกองกำลังทหารจับกุมตัวถูกพบในหมู่บ้านจาปิน ห่างจากเมืองซาลิน ของเขตมะเกว ไปทางใต้ราว 186 กิโลเมตร เมื่อวันเสาร์ โดยทั้ง 4 ถูกจับกุมตัวระหว่างที่ทหารเข้าบุกโจมตีหมู่บ้านจาปินและหมู่บ้านอื่นๆ อีก 24 หมู่บ้าน
“ศพถูกทิ้งลงไปในหลุมส้วมเก่าในโรงเรียนจาปิน เรานำตัวพวกเขาขึ้นมาไม่ได้ เลยย้ายศพไปไว้ที่สุสานไม่ได้ เราเลยต้องถมทรายให้เต็ม” ชาวบ้านระบุ
ในหมู่บ้านอีก 2 แห่งที่อยู่ใกล้กัน กองกำลังทหารได้เผาบ้านไปกว่า 100 หลัง ทำให้หญิงอายุ 55 ปี รายหนึ่งเสียชีวิต
เนื่องจากการบุกโจมตีของรัฐบาลทหาร ทำให้ชาวบ้านเกือบ 17,000 คน ไม่สามารถกลับบ้านของตนเองได้
จากรายงานของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร การโจมตีของกองกำลังทหารทำให้พลเรือนเสียชีวิต 6,435 คนทั่วประเทศ.
