MGR ออนไลน์ - เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของรัฐบาลทหารพม่าในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ เกือบ 90 คน ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง หลังฝ่ายตรงข้ามการปกครองของทหารเตือนพวกเขาไม่ให้สนับสนุนรัฐบาล ตัวแทนฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยเผย
นักเคลื่อนไหวที่ตั้งใจจะยุติการปกครองของทหารจากการรัฐประหารในปี 2564 ได้จัดตั้งฝ่ายบริหารคู่ขนานขึ้นหลายระดับ ตั้งแต่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ที่เป็นรัฐบาลเงาในต่างแดน ไปจนถึงระดับหมู่บ้าน ที่ค่อยๆ เซาะกร่อนอำนาจของกองทัพ
ในเมืองกันเปตเลต ของรัฐชิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาและสาธารณสุขรวม 88 คน พร้อมใจกันลาออกจากตำแหน่ง หลังจากได้รับแจ้งจากฝ่ายบริหารประชาชนต่อต้านรัฐบาลทหาร ชาวเมืองกันเปตเลตกล่าว
“หลังได้รับคำเตือนจากฝ่ายบริหารประชาชน พวกเขาก็เข้าร่วมขบวนการอารยขัดขืน” ชาวเมืองกันเปตเลต กล่าว โดยอ้างถึงการรณรงค์ต่อต้านการปกครองของกองทัพทั่วประเทศ
กองทัพทำให้พม่าตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่รัฐประหารในปี 2564 ที่โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี
ขบวนการอารยขัดขืนเกิดขึ้นเมื่อกองทัพปราบปรามการชุมนุมประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพ ทำให้การปฏิรูปประชาธิปไตยกว่า 10 ปี ของประเทศยุติลง
ฝ่ายบริหารที่ต่อต้านรัฐบาลทหารบอกกับเจ้าหน้าที่รัฐในเดือน พ.ค. ว่าถ้าพวกเขาไม่เข้าร่วมขบวนการอารยขัดขืนภายใน 60 วัน พวกเขาจะถูกดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ตามอำนาจของพวกเขา
นักเคลื่อนไหวติดอาวุธต่อต้านกองทัพได้โจมตีเจ้าหน้าที่ในฝ่ายบริหารของรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่บังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร และจนถึงเดือน มิ.ย. มือปืนได้สังหารเจ้าหน้าที่ไปแล้วมากกว่า 80 คนทั่วประเทศ
แต่เจ้าหน้าที่ที่ลาออกไม่ใช่ทุกคนที่เข้าร่วมขบวนการอารยขัดขืน มีบางคนหลบหนีไปพื้นที่ใกล้เคียง เช่น มะเกวหรือสะกาย หรือแม้กระทั่งนครย่างกุ้ง
“บางคนหลบหนีเพราะกลัวที่จะอยู่ในพื้นที่ และมีบางคนยื่นคำร้องถึงรัฐบาลเพื่อขอย้ายตำแหน่ง” ชาวเมืองกันเปตเลต กล่าว
ด้านโฆษกของฝ่ายบริหารประชาชนต่อต้านรัฐบาลทหารเมืองกันเปตเลต กล่าวว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นได้รับโอกาสให้เข้าร่วมขบวนการอารยขัดขืนต่อต้านรัฐบาลทหารในเมือง ที่มีสมาชิกราว 800 คน
“สิ่งสำคัญคือเราไม่ได้บังคับให้พวกเขาเข้าร่วมขบวนการอารยขัดขืน เราให้โอกาสพวกเขาเพราะพวกเขาต้องการเข้าร่วม หลังจากที่เราได้อธิบายสิ่งต่างๆ อย่างละเอียดแล้ว” โฆษกหญิงกล่าวโดยปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัย.