เวียดนามเล็งฟื้นแผนพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เสริมความมั่นคงด้านพลังงาน

รอยเตอร์ - เวียดนามกำลังพิจารณาที่จะฟื้นแผนพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อรับประกันความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมระดับภูมิภาคที่พึ่งพาถ่านหินอย่างมากในการผลิตไฟฟ้า กำลังพยายามเพิ่มการผลิตพลังงานสะอาด เพื่อบรรลุเป้าหมายปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2593

“กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าจะดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับประสบการณ์การพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศอื่นๆ และเสนอแผนพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ในเวียดนาม” เอกสารของรัฐบาลระบุ

เอกสารดังกล่าวที่รอยเตอร์ได้ตรวจสอบระบุว่าเวียดนามมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า 12-15% ต่อปี เพื่อรับประกันความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 7 ต่อปี

ข้อเสนอการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์จะยื่นเสนอต่อโปลิตบูโร หน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินใจมากที่สุดของประเทศ เพื่อพิจารณาเอกสาร แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลา

ในปี 2552 เวียดนามได้อนุมัติแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งแรกของประเทศ แต่แผนดังกล่าวถูกระงับในปี 2559 หลังจากเกิดภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะในญี่ปุ่น และเนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เสนอไปนั้นมีกำลังการผลิตรวม 4 กิกะวัตต์ มีแผนที่จะสร้างโดยบริษัท Rosatom ของรัสเซีย และบริษัท Japan Atomic Power Co. ใน จ.นีงทวน ทางตอนกลางของประเทศ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามพยายามที่จะพัฒนาพลังงานสะอาด แต่เป้าหมายการพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่งและ LNG ยังมีความเสี่ยงเนื่องจากอุปสรรคด้านกฎระเบียบและราคา

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าเวียดนามได้พิจารณาที่จะกลับมาใช้พลังงานนิวเคลียร์มาหลายปีแล้ว และได้หารือถึงการสนับสนุนที่เป็นไปได้จากรัสเซีย เกาหลีใต้ แคนาดา และประเทศอื่นๆ สำหรับเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็ก

พลังงานนิวเคลียร์ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในแผนพัฒนาพลังงานหลักของประเทศ ที่ผ่านการรับรองไปเมื่อเดือน พ.ค.2566 แผนที่มีชื่อว่า PDP8 จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมดของประเทศเป็นกว่า 150 กิกะวัตต์ ภายในปี 2573 จากกว่า 80 กิกะวัตต์เมื่อสิ้นปีก่อน

สื่อของรัฐรายงานเมื่อต้นเดือนว่ากระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากำลังขอความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงแผน PDP8

เอกสารของสำนักงานรัฐบาลระบุว่ากระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้รับคำสั่งให้ขจัดอุปสรรคต่อการพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่งและโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม.