เอเอฟพี - สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่าอดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์และการบินของเวียดนามถูกตัดสินจำคุก 21 ปีในวันนี้ (5) จากข้อหาฉ้อโกงและปั่นหุ้นรวมมูลค่า 146 ล้านดอลลาร์
จีง วัน เกียต เป็นหนึ่งในจำเลย 50 คน ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีทุจริตล่าสุดที่มุ่งเป้ายังกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำของประเทศ
ศาลฮานอยระบุว่า เกียต ที่เป็นเจ้าของอาณาจักร FLC ที่ประกอบไปด้วยธุรกิจรีสอร์ตหรู สนามกอล์ฟ และสายการบินแบมบู ได้รับโทษหนักที่สุดเนื่องจากเขาเป็นผู้นำในการฉ้อโกง
“จำเลยดำเนินการฉ้อโกงผ่านตลาดหุ้น ที่ก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจต่อนักลงทุนและตลาดหุ้น ส่งผลให้เกิดความโกรธแค้นในสังคม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลงโทษ” ศาลประชาชนกรุงฮานอยระบุในคำพิพากษาที่เผยแพร่ลงในหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋
ส่วนจำเลยอีก 49 คน ที่รวมถึงน้องสาว 2 คนของเกียต และเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ 4 คน ได้รับโทษตั้งแต่จำคุก 14 ปี และรอลงอาญา 15 เดือน
พวกเขาถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง ปั่นหุ้น ใช้อำนาจในทางมิชอบ และเผยแพร่ข้อมูลตลาดหุ้นที่ไม่ถูกต้อง
ตามคำฟ้องของอัยการ เกียตได้ตั้งนายหน้าซื้อขายหุ้นหลายรายและจดทะเบียนสมาชิกในครอบครัวหลายสิบคนเพื่อซื้อขายหุ้น แต่ตำรวจระบุว่าแม้จะมีการส่งคำสั่งซื้อหุ้นในช่วงการขายหลายร้อยครั้ง ที่ส่งผลให้มูลค่าหุ้นสูงขึ้น แต่คำสั่งเหล่านั้นถูกยกเลิกก่อนที่จะถูกจับคู่
ศาลระบุว่า เกียตยักยอกเงินมากกว่า 146 ล้านดอลลาร์ ระหว่างปี 2560-2565 และมีผู้ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงนี้ 25,000 คน
ผู้ค้าหุ้นรายหนึ่งจากฮานอยกล่าวกับเอเอฟพีว่าเขาเสียเงินไปเกือบ 8,000 ดอลลาร์หลังจากลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ FLC Group
“สิ่งที่เกียตและคนอื่นๆ ทำคือการปั่นหุ้น พวกเขาจะต้องถูกลงโทษอย่างเหมาะสม ผมต้องยอมรับความสูญเสียของตัวเอง และพยายามเรียนรู้จากเรื่องนี้ เพื่อให้การซื้อขายในอนาคตของผมดีขึ้น” ผู้ค้าหุ้นจากฮานอย ระบุ
ในคำพูดสุดท้ายของเขาต่อหน้าศาล เกียตกล่าวว่าเขาฝันที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเวียดนามทั่วไปด้วยการสร้างรีสอร์ตและที่อยู่อาศัยที่จะเปลี่ยนแปลงชุมชน สิ่งนี้ทำให้เขาทำในสิ่งที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
“สิ่งที่ผมทำจะตามหลอกหลอนผมไปตลอดชีวิต” เกียต กล่าว ตามการรายงานของสำนักข่าว VnExpress
ศาลยอมรับว่า FLC Group ได้พัฒนาและลงทุนในโครงการต่างๆ มากมายในพื้นที่ห่างไกลและยากจน สร้างงานหลายพันตำแหน่งและมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ
การพิจารณาคดีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค. และมีทนายความเกี่ยวข้องถึง 100 คน
คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันระดับชาติที่กวาดล้างเจ้าหน้าที่และสมาชิกกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำของประเทศเป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในเดือน เม.ย. เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศถูกตัดสินประหารชีวิตในคดีฉ้อโกงมูลค่า 27,000 ล้านดอลลาร์ ที่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และในปลายเดือนเดียวกัน เจ้าของบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของเวียดนามถูกตัดสินจำคุก 8 ปี จากคดีฉ้อโกงมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์.