“มินอ่องหล่าย” ยอมรับเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ

MGR ออนไลน์ - พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐบาลทหาร กล่าวในที่ประชุมสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติว่า การเลือกตั้งจะจัดขึ้นในพื้นที่ปลอดภัยก่อนเป็นลำดับแรก ในขณะที่รัฐบาลพยายามนำเสถียรภาพและความมั่นคงกลับคืนสู่พื้นที่ขัดแย้ง

หัวหน้ารัฐบาลทหารกล่าวเสริมอีกว่ากองกำลังทหารของเขาจะนำสันติภาพและเสถียรภาพมาสู่เมืองล่าเสี้ยว หนองเขียว จ๊อกแม สีป่อ และโมก๊ก พื้นที่ที่กองกำลังทหารเพิ่งพ่ายแพ้ รวมถึงสูญเสียฐานทหารและเมืองสำคัญไปหลายแห่งให้กองกำลังกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และพันธมิตรของพวกเขา

เขายืนยันว่าหลังจากการยึดอำนาจในเดือน ก.พ.2564 รัฐบาลของเขามีแผนที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศเมื่อการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินในเบื้องต้น 2 ปี สิ้นสุดลง แต่ความขัดแย้งขัดขวางแผนของรัฐบาลที่จะกลับสู่ประชาธิปไตย ขณะเดียวกันบังคับให้ต้องขยายเวลาการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก

ในช่วงสงครามกลางเมืองในต้นทศวรรษ 1950 การเลือกตั้งทั่วไปจัดขึ้นเป็นเวลา 7 เดือนระหว่างเดือน มิ.ย.2494 ถึงเดือน เม.ย.2495 เนื่องจากการสู้รบ

การเลือกตั้งทั่วไปทั่วประเทศจัดขึ้นในปี 2533 ปี 2553 ปี 2558 และปี 2563 แต่หลังจากเสียพื้นที่จำนวนมากในรัฐชานตอนเหนือและรัฐยะไข่ และเกิดความไม่สงบในหลายพื้นที่ของประเทศ รัฐบาลจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจัดการเลือกตั้งเป็นระยะๆ

ในการประชุมสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติในเดือน ม.ค.2566 พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่ารัฐบาลของเขาควบคุมเมืองได้อย่างสมบูรณ์เพียง 198 เมืองจากทั้งหมด 330 เมืองในประเทศ และจำเป็นต้องปรับปรุงความปลอดภัยใน 132 เมือง

คำกล่าวนั้นมีขึ้นก่อนที่พันธมิตรสามภราดรภาพของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่มเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ 1027 ที่ทำให้รัฐบาลสูญเสียเมืองต่างๆ ไปแล้วหลายสิบแห่งในรัฐชานเหนือ กองทัพอาระกัน (AA) หนึ่งใน 3 สมาชิกของกลุ่มพันธมิตรได้ยึดครองพื้นที่ของรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศไปแล้วกว่าครึ่ง

อย่างไรก็ตาม การสูญเสียดินแดนของกองทัพไม่ได้จำกัดอยู่แค่รัฐชานและรัฐยะไข่เท่านั้น แต่ยังสูญเสียพื้นที่ในรัฐชาติพันธุ์อื่นๆ รวมทั้งรัฐกะฉิ่น และเมื่อไม่นานนี้ ยังเสียอีก 2 เมืองในภาคมัณฑะเลย์

ทั้งนี้ ผู้สังเกตการณ์ตั้งคำถามว่ารัฐบาลมีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดทำสำมะโนประชากรที่จำเป็นในการจัดทำรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ โดยยังไม่ต้องพูดถึงการเลือกตั้งทั่วประเทศ

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวก่อนหน้านี้ว่าการเลือกตั้งจะจัดขึ้นในปีหน้าหลังการสำรวจสำมะโนประชากร ที่กำหนดไว้ในเดือน ต.ค. แต่ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่าการเลือกตั้งมีแนวโน้มสูงว่าจะไม่เกิดขึ้น ยกเว้นในเนปีดอ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ และในเมืองใหญ่ของรัฐและภาคอื่นๆ

หลังจากประกาศขยายสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน สถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้มีกำหนดสิ้นสุดในช่วงปลายเดือน ม.ค.2568 ถ้ามิน อ่อง หล่าย คืนอำนาจให้สภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติ รัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 6 เดือน.