MGR Online - กองทัพกอทูเลของนายพลเนอดา เมียะ ต้องเสียนายทหารระดับสูงอีก 1 ราย หลังอดีตโฆษกตัดสินใจนำปืน 30 กระบอก ย้ายค่ายข้ามฟากมาเข้าสังกัด BGF หนึ่งในนั้นเป็นปืนที่สไนเปอร์ใช้ซุ่มยิงโดยเฉพาะ มูลค่า 6 แสนบาท
เช้าวันนี้ (2 มิ.ย.) Salween Press รายงานว่า พ.ต.ซอ อิงลิช หรือซอ วาเหน่มู อดีตโฆษกกองทัพกอทูเล (Kawthoolei Army : KTLA) ได้ย้ายค่าย โดยข้ามฟากไปสังกัดกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของชาวกะเหรี่ยงที่ให้การสนับสนุนกองทัพพม่า
ตามข้อมูลของ Salween Press พ.อ.ซออิงลิช ถือเป็นนายทหารที่มีบทบาทสำคัญในกองบัญชาการกองทัพกอทูเล การตัดสินใจย้ายค่ายข้ามฟากของเขาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลจากความไม่พอใจเป็นการส่วนตัว โดยเขาได้นำอาวุธปืนติดตัวมายัง BGF ด้วยจำนวนถึง 30 กระบอก และหนึ่งในนี้เป็นปืนสไนเปอร์คุณภาพสูงสำหรับใช้เพื่อการซุ่มยิงโดยเฉพาะ มูลค่ากระบอกละ 6 แสนบาท
กองทัพกอทูเลก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 โดยนายพลเนอดา เมียะ อดีตผู้บัญชาการองค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNDO) และเป็นลูกชายของนายพลโบเมียะ อดีตประธานสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เนื่องจากเขาถูก KNU ปลดจากตำแหน่ง
พื้นที่เคลื่อนไหวของกองทัพกอทูเลอยู่บริเวณตอนใต้ของรัฐกะเหรี่ยงต่อเนื่องกับภาคตะนาวศรี อย่างไรก็ตาม KNU และชาวกะเหรี่ยงจำนวนมากกลับไม่ไว้วางใจความเคลื่อนไหวของนายพลเนอดา เมียะ และกองทัพกอทูเล เนื่องจากมองว่านายพลเนอดา เมียะ มีจิตใจฝักใฝ่รัฐบาลเงา (NUG) มากเกินไป และบทบาทของกองทัพกอทูเลเน้นสนับสนุนความเคลื่อนไหวของกองกำลังติดอาวุธ (PDF) ของรัฐบาลเงา ไม่ได้ต่อสู้เพื่อเสรีภาพของชาวกะเหรี่ยงอย่างแท้จริง
หลังตั้งกองทัพกอทูเลได้เพียงปีเศษ นายพลเนอดา เมียะ ต้องสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนายทหารฝีมือดีที่เขานำมาร่วมกองทัพด้วยในตอนแรกตัดสินใจนำลูกน้องย้ายกลับไปสังกัดกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ในสังกัด KNU เหมือนเดิม เช่น ร.ท.แอเซวา ผบ. Lion Battalion Commando และ ร.ท.ซอ วินมิ่น ผบ.หน่วย Venom
อย่างไรก็ตาม อดีตนายทหารกอทูเลทั้ง 2 นายข้างต้นได้ย้ายไปสังกัดกับกองกำลังติดอาวุธของกะเหรี่ยงที่ยังคงต่อสู้อยู่กับกองทัพพม่า แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ พ.ต.ซอ อิงลิช นายทหารกองทัพกอทูเลรายล่าสุด ที่เป็นการย้ายฟากมาสังกัด BGF ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนกองทัพพม่า
BGF เป็นอดีตทหารกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ที่แยกตัวออกมาจาก KNU ตั้งแต่เมื่อปี 2537 และแปรสภาพเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดนที่อยู่ภายใต้การกำกับของกองทัพพม่า และยังร่วมกับทหารพม่าสู้รบกับกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงกลุ่มอื่นๆ โดยได้รับผลประโยชน์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในพื้นที่ BGF เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
พื้นที่รับผิดชอบหลักของ BGF อยู่ตามแนวชายแดนพม่า-ไทย ในรัฐกะเหรี่ยง โดยเฉพาะในเมืองเมียวดี ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นประตูการค้าสำคัญที่สุดของไทยและพม่า ที่ทุกวันนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของ BGF แล้วอย่างเบ็ดเสร็จ.
