MGR Online - กองกำลังพิทักษ์ประชาชนรัฐกะเหรี่ยงประกาศแยกตัว ไม่ขอรับเงินเดือน-การอุดหนุนทุกชนิดจากกองทัพพม่าหลังร่วมรบกันมานาน 30 ปี เหตุถูกกดดันหนักให้กวาดล้างจีนเทาที่เป็นแหล่งผลประโยชน์มหาศาลในเมืองเมียวดี
วานนี้ (26 ม.ค.) Karen Information Center (KIC) รายงานว่า กองบัญชาการ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) รัฐกะเหรี่ยง มีคำสั่งให้กำลังพลซึ่งประจำการอยู่แนวหน้าในพื้นที่เมืองผาปูน จังหวัดมูตรอ และในเมืองผาอัน ถอนกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 700 นายกลับไปยังฐานที่มั่น
คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเป็นที่ยืนยันแล้วว่า BGF ในรัฐกะเหรี่ยงที่เคยร่วมปฏิบัติการกับกองทัพพม่ามานานถึง 30 ปี ได้ตัดความสัมพันธ์ที่เคยมีกับกองทัพพม่าลงแล้วอย่างแน่นอน และจะแปรสภาพเป็นกองกำลังติดอาวุธที่ดูแลพื้นที่จังหวัดเมียวดี เพียงอย่างเดียว
คำสั่งถอนกำลัง BGF ออกจากแนวหน้าในจังหวัดมูตรอและผาอัน ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของกองพลที่ 5 กับกองพลที่ 7 กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ครั้งนี้ เท่ากับว่าหลังจากนี้ ทหารพม่าที่ประจำการอยู่ใน 2 พื้นที่ดังกล่าวต้องเผชิญหน้ากับทหาร KNLA เพียงลำพัง ซึ่งนอกจากเมืองผาปูนและเมืองผาอันแล้ว คาดว่าในพื้นที่อื่นที่กำลังพล BGF เคยเคลื่อนไหวร่วมกับทหารพม่าต้องมีการถอนกำลังออกมาด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 BGF ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์โดยไม่ขอรับเงินเดือนและการสนับสนุนทุกชนิดจากกองทัพพม่าอีกต่อไป หลังจากจากถูกกองทัพพม่ากดดันอย่างหนักให้ BGF จัดการกวาดล้างธุรกิจสีเทาโดยเฉพาะการฉ้อโกงทางออนไลน์ที่ดำเนินการโดยอาชญากรชาวจีน ซึ่งตั้งอยู่หลายแห่งตามแนวชายแดนในจังหวัดเมียวดี ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอดและแม่ระมาด จังหวัดตากของประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการเมืองใหม่ฉ่วยก๊กโก
วันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา พล.อ.อาวุโส โซวิน รองสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ในฐานะรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพพม่า ได้เดินทางมาเมืองผาอันเพื่อประชุมร่วมกับนายทหารระดับคุมกำลังของ BGF โดยมี พ.อ.ซอชิดตู่ ผบ.กองพลที่ 3 BGF ที่รับผิดชอบเมืองเมียวดี เข้าร่วมประชุมด้วย การประชุมครั้งนี้ พล.อ.อาวุโซ โซวิน หวังเกลี้ยกล่อมให้ BGF เปลี่ยนใจกลับมาปฏิบัติการร่วมกับกองทัพพม่าอีกครั้ง แต่มีรายงานว่าการเกลี้ยกล่อมของ พล.อ.อาวุโส โซวิน ถูกปฏิเสธจากเหล่านายทหาร BGF
BGF เป็นอดีตทหารของกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ที่ได้ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ตั้งแต่เมื่อปี 2537 และยอมแปรสภาพเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดนซึ่งต้องอยู่ภายใต้การกำกับโดยกองทัพพม่าเพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะในจังหวัดเมียวดี ที่เป็นประตูการค้าสำคัญที่สุดระหว่างไทยกับพม่า
ต่อมามีกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนหรือที่รู้จักกันในนาม "จีนเทา" ได้เข้ามาใช้พื้นที่จังหวัดเมียวดีเป็นแหล่งประกอบอาชญากรรมหลากหลายประเภท ได้แก่ กาสิโน บ่อนการพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำมาซึ่งอาชญากรรมต่อเนื่องอีกหลายชนิด ทั้งการค้ายาเสพติด การค้าประเวณี และการค้ามนุษย์
ปีที่แล้ว (2566) รัฐบาลจีนได้กดดันกองทัพพม่าให้กวาดล้างเหล่าจีนเทาเหล่านี้ และกองทัพพม่าได้กดดันต่อลงมาที่ BGF ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธที่ดูแลพื้นที่นี้โดยเฉพาะอีกทอดหนึ่ง แต่เนื่องจากผลประโยชน์อันเกิดจากธุรกิจสีเทาในพื้นที่นั้นมีเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้นายทหารระดับคุมกำลังของ BGF ตัดสินใจเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์กับกองทัพพม่าแทน
ปัจจุบัน BGF มีกำลังพลรวมประมาณ 7,000 นาย แบ่งเป็น 4 กองพล 13 กองพัน ฐานบัญชาการของแต่ละกองพล ตั้งอยู่ในเมืองหล่ายปวย ผาปูน เมียวดี และจาอินเซะจี.