กลุ่มธุรกิจสหรัฐฯ เตรียมหารือ ก.กลาโหม-ความมั่นคงเวียดนาม เล็งเสริมขีดความสามารถการป้องกัน

รอยเตอร์ - บริษัทสหรัฐฯ ราวสิบแห่งจะจัดการประชุมหารือกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะและกระทรวงกลาโหมของเวียดนามในสัปดาห์หน้า ที่กลุ่มธุรกิจของสหรัฐฯ ตั้งเป้าที่จะลงนามข้อตกลงเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดหาเครื่องมือให้ตำรวจของประเทศ ผู้จัดงานเปิดเผยกับรอยเตอร์

การประชุมที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 18 มี.ค.นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาที่นำไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์ในเดือน ก.ย. ระหว่างการเยือนกรุงฮานอยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในขณะที่วอชิงตันพยายามที่จะมีอิทธิพลในประเทศทางยุทธศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ที่ยังมีความสัมพันธ์กับจีนด้วย

ข้อตกลงที่ไม่มีผลผูกพันอาจลงนามนอกรอบการประชุมดังกล่าว และจะทำให้การทำข้อตกลงในอนาคตง่ายขึ้น หวู ตู๋ แถ่ง ตัวแทนของสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (US ABC) ที่เป็นกลุ่มสนับสนุนที่จัดการประชุมกล่าว และเขายังระบุว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลุ่มได้ลงนามในข้อตกลงที่คล้ายกันกับกระทรวงอื่นๆ ของเวียดนามแล้ว

US ABC ได้หารือเป็นเวลาหลายเดือนเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนาม และเสริมว่าข้อตกลงใดๆ ก็ตามจะเป็นการลงนามระหว่างกระทรวงและ US ABC โดยไม่มีบริษัทใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง

แถ่งกล่าวว่า บริษัทโบอิ้ง ยักษ์ใหญ่ด้านการบิน อวกาศและการป้องกันของสหรัฐฯ จะเข้าร่วมในการประชุมด้วย แต่ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เข้าร่วมทั้งหมด และปฏิเสธที่จะบอกว่าบริษัทสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาด้านการป้องกันที่ผ่านมาจะเข้าร่วมในการประชุมนี้หรือไม่

“โบอิ้งจะเน้นย้ำถึงความร่วมมือที่กำลังเติบโตของบริษัทกับเวียดนาม และโอกาสในการเสริมขีดความสามารถด้านการบินและอวกาศของประเทศ” โบอิ้งบอกกับรอยเตอร์ในคำแถลงทางอีเมล

ATMO ผู้ให้บริการอุตุนิยมวิทยาแก่รัฐบาลและกองทัพที่มีสำนักงานในสหรัฐฯ จะเข้าร่วมในการประชุมด้วยเช่นกัน แถ่งและบริษัทกล่าว

US ABC ที่มีสมาชิกประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งในสหรัฐฯ ได้ส่งร่างข้อตกลงไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ โดยครอบคลุมภาคส่วนต่างๆ ที่บริษัทของสหรัฐฯ สามารถช่วยได้ รวมถึงการจัดหาเทคโนโลยีการตรวจจับและการป้องกันอาชญากรรม การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ บริการการบิน และความปลอดภัยทางไซเบอร์

รายละเอียดของการเจรจากับกองกำลังความมั่นคงของเวียดนามยังไม่เคยมีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ และยังไม่ชัดเจนว่ากระทรวงจะลงนามข้อตกลงหรือไม่ แถ่งระบุ

รัฐสภาเวียดนามอนุมัติในเดือน มิ.ย.2565 จัดตั้งหน่วยตำรวจเคลื่อนที่เพื่อปราบปรามอาชญากรรม การก่อการร้าย และการจลาจล และหน่วยดังกล่าวต้องการอุปกรณ์เพิ่มเติม รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ ตามการระบุของรัฐบาล

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า วอชิงตันยินดีที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันของเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลจีนใต้ ที่มักขัดแย้งกับจีนในเรื่องเขตแดนพิพาท

แต่อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนตำรวจอาจเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้น โดยรายงานว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในเวียดนามของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อปีก่อน ระบุเตือนถึงการละเมิดที่สำคัญ และอ้างถึงรายงานที่น่าเชื่อถือว่าสมาชิกของกองกำลังความมั่นคงได้กระทำการละเมิดหลายครั้ง

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามกล่าวว่ารายงานดังกล่าวมีอคติและอ้างอิงจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

สำหรับบริษัทสเปซเอ็กซ์ ที่เข้าร่วมคณะผู้แทนทางธุรกิจของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนเวียดนามเมื่อปีก่อน จะไม่เข้าร่วมในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากบริษัทไม่ได้รับใบอนุญาตสำหรับโครงการสตาร์ลิงก์ บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในเวียดนาม แถ่งกล่าว

รอยเตอร์ได้รายงานพิเศษเมื่อเดือน ก.พ.ว่า การเจรจาของสเปซเอ็กซ์กับเวียดนามเกี่ยวกับโครงการสตาร์ลิงก์ถูกระงับ และสเปซเอ็กซ์ไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความเห็นจากรอยเตอร์นอกเวลาทำการ.