พม่าคุมเข้มคนเข้าออกรัฐยะไข่ ปิดเส้นทางบก-น้ำ ส่วนผู้โดยสารเครื่องบินถูกสอบปากคำทันทีที่เครื่องลงจอด

MGR ออนไลน์ - ทหารของรัฐบาลพม่าเข้าคุมตัวผู้โดยสารที่วัยถึงเกณฑ์เกณฑ์ทหารที่เดินทางมาถึงสนามบินสิตตะเวในรัฐยะไข่จากนครย่างกุ้งตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.เป็นต้นมา และมีรายงานว่าบางคนยังคงถูกควบคุมตัวจนถึงตอนนี้

หลังจากถูกสอบปากคำที่สนามบินเป็นอย่างแรก ผู้โดยสารบางคนจะถูกนำตัวไปที่วัดใกล้สนามบิน ที่กองกำลังทหารของรัฐบาลประจำการอยู่ แหล่งข่าวระบุ

ชาวเมืองสิตตะเวที่ถูกควบคุมตัวเมื่อเดินทางมาถึงในวันที่ 19 ก.พ. และได้รับการปล่อยตัวในวันเดียวกัน เปิดเผยกับสำนักข่าวอิรวดีว่า ผู้โดยสารบางคนที่มาถึงสนามบินถูกนำตัวไปที่โถงในอาคารสนามบิน ที่มีทหารของรัฐเข้ามาสอบปากคำพวกเขา และจากนั้นนำตัวผู้ที่อายุถึงเกณฑ์ในการเกณฑ์ทหารไปยังฐานทหารดังกล่าว

ในสัปดาห์นี้ มีรายงานว่ากองกำลังทหารของรัฐบาลที่สนามบินย่างกุ้งได้เริ่มสอบปากคำคนหนุ่มสาว และกระทั่งขัดขวางผู้ที่มีอายุ 18-35 ปี บางคนไม่ให้เดินทางไปที่รัฐยะไข่ด้วย

กองทัพพม่าเผชิญกับความพ่ายแพ้หลายครั้งในการสู้รบในรัฐยะไข่ โดยสูญเสียเมือง 7 เมือง ฐานสำคัญและด่านหน้าหลายแห่งนับตั้งแต่กองทัพอาระกันเปิดฉากโจมตีในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. และนับแต่นั้นมา รัฐบาลทหารเริ่มกดขี่ข่มเหงพลเรือนยะไข่

กองกำลังทหารมุ่งเป้าไปที่คนหนุ่มสาวที่เดินทางจากย่างกุ้งไปสิตตะเวเป็นพิเศษ ด้วยสงสัยว่าพวกเขากำลังพยายามหลบเลี่ยงหน้าที่ทางทหารตามกฎหมายเกณฑ์ทหารที่เพิ่งประกาศบังคับใช้เมื่อวันที่ 10 ก.พ. และอาจเข้าร่วมกับกองทัพอาระกัน

ในวันที่ 20 ก.พ. กองทัพอาระกันประกาศว่าสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับชาวยะไข่คือพื้นที่ในรัฐยะไข่ ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพอาระกัน และได้เรียกร้องให้ชาวยะไข่และคนชาติพันธุ์อื่นๆ ออกจากเมืองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล เช่น มัณฑะเลย์และย่างกุ้ง มาอยู่ในเขตแดนที่กองทัพอาระกันควบคุม

หลังประกาศของกองทัพอาระกัน รัฐบาลทหารได้สั่งให้กองกำลังทหารของตนเข้าจับกุมและสอบปากคำผู้คนที่เดินทางไปรัฐยะไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้าเป็นกองกำลังของกองทัพอาระกันและต่อสู้กับรัฐบาล สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างแหล่งข่าววงใน

ชาวสิตตะเวที่อยู่ในเที่ยวบินที่ลงจอดในวันที่ 19 ก.พ. ระบุว่า เมื่อเครื่องบินถึงสนามบิน ผู้โดยสารถูกควบคุมตัวไว้เกือบ 5 ชั่วโมง และถูกตรวจสอบ 2 รอบ โดยครั้งแรกที่โถงสนามบิน และอีกครั้งหนึ่งในพื้นที่อาคารสนามบินที่กองกำลังทหารประจำการอยู่

ทหารได้ซักถามผู้โดยสารอย่างละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลในการเดินทางมายังเมืองสิตตะเว จุดหมายปลายทางต่อไปของพวกเขา และสถานที่ที่พวกเขาจะพักในเมือง รวมถึงคัดลอกเอกสารประจำตัวและถ่ายรูปพวกเขาไปหลายมุม ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่สนามบิน แหล่งข่าวระบุ

“อย่างแรกพวกเขาถามอายุเราและถามถึงภูมิหลังของเรา ส่วนข้าราชการ ผู้สูงอายุ เด็กและแม่เด็กได้รับอนุญาตให้ผ่านออกไปได้ แต่คนหนุ่มสาวถูกควบคุมตัว สอบถามอย่างละเอียดและไม่อนุญาตให้ออกไป มีคนเกือบ 300 คนถูกควบคุมตัวในวันที่ 19 ก.พ.” ชาวเมืองสิตตะเว กล่าว

ส่วนประชาชนที่อาศัยในเมืองที่มีการปะทะเกิดขึ้นระหว่างกองกำลังทหารของรัฐและกองทัพอาระกัน จะถูกสอบปากคำเข้มข้นกว่าชาวเมืองสิตตะเว พวกเขาจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับประวัติ ภูมิหลัง และเส้นทางกลับบ้าน ซึ่งทุกเส้นทางที่ออกจากเมืองสิตตะเวถูกทหารปิดกั้นไว้

รัฐบาลทหารยังกำหนดข้อจำกัดในการเดินทางทางอากาศออกจากรัฐยะไข่และภูมิภาคตะนาวศรี ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.พ. ผู้โดยสารต้องได้รับหนังสืออนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนบินไปย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเมืองใหญ่อื่นๆ ในประเทศ

ประชาชนไม่สามารถบินออกจากภูมิภาคตะนาวศรีและรัฐยะไข่ได้ เว้นแต่พวกเขาจะได้รับการรับรองจากสำนักงานของหน่วยงานบริหารที่รัฐบาลทหารควบคุม ตามประกาศที่ออกถึงสนามบินต่างๆ โดยกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร

ในวันที่ 20 ก.พ. ผู้โดยสารชาวยะไข่มากกว่า 100 คน บนรถโดยสาร 3 คัน ที่จะเดินทางไปรัฐยะไข่ ถูกจับกุมที่สถานีขนส่งในย่างกุ้ง สื่อท้องถิ่นในย่างกุ้งระบุ

ชาวเมืองสิตตะเวกล่าวว่า รัฐบาลทหารปิดกั้นเส้นทางทางบกทั้งหมดที่ออกจากรัฐยะไข่ และปิดเส้นทางน้ำ การเดินทางทางอากาศจึงเป็นเพียงวิธีการเดียวในการเดินทางเข้าออกจากรัฐยะไข่.