MGR ออนไลน์ - เจ้าหน้าที่รัฐบาลลาวเผยว่าลาวจะสร้างฟาร์มกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้ชายแดนเวียดนาม ที่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการเป็นแบตเตอรี่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า โครงการมูลค่า 2,160 ล้านดอลลาร์ จะส่งผลกระทบอย่างจำกัดต่อสิ่งแวดล้อม และน้อยกว่าโครงการเขื่อนหลายแห่งที่ลาวกำลังสร้างอยู่ที่ทำให้ชาวบ้านต้องพลัดถิ่นและทำลายระบบนิเวศของพื้นที่ริมน้ำ
แต่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านบางส่วนแสดงความวิตกเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่าและการสูญเสียพื้นที่เพาะปลูก และเรียกร้องให้ดำเนินการศึกษาผลกระทบเพิ่มเติม
โครงการขนาด 1,200 เมกะวัตต์ของบริษัท Savan Vayu Renewable Energy Co จะเริ่มการก่อสร้างในพื้นที่ใกล้กับหมู่บ้านละโก อ.เซโปน แขวงสะหวันนะเขต ทางภาคใต้ โดยโครงการจะครอบคลุมพื้นที่ 28,513 เฮกตาร์ ที่จะติดตั้งกังหันลมจะกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ภายในปี 2569
เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ฟาร์มกังหันลมแห่งนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าโครงการ Monsoon Wind ขนาด 600 เมกะวัตต์ ที่อยู่ในลาวเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ระดับอำเภอของสำนักงานพลังงานและเหมืองแร่กล่าวว่า พื้นที่ที่กังหันลมจะสร้างขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ขรุขระมีก้อนหินมาก และผู้อยู่อาศัยจะไม่ได้รับผลกระทบ
“ฟาร์มพลังงานลมจะตั้งอยู่บนยอดเขาที่ห่างจากหมู่บ้านราว 20 กิโลเมตร มันจะไม่ก่อผลกระทบร้ายแรงใดๆ กับประชาชน จะไม่มีการย้ายผู้คน” เจ้าหน้าที่ กล่าว
แต่เจ้าหน้าที่ระดับอำเภออีกรายหนึ่งจากสำนักงานการเกษตรและป่าไม้แสดงความเห็นเรื่องการอนุรักษ์
“หากบริษัทจะสร้างฟาร์มกังหันลมในพื้นที่ ต้นไม้ทั้งหมดจะถูกตัดและป่าไม้จะถูกทำลาย ในประเด็นนี้การศึกษาความเป็นไปได้ยังไม่มีรายละเอียดเพียงพอ” เจ้าหน้าที่ กล่าว
เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรียกร้องให้รัฐบาลและผู้พัฒนาโครงการใช้ความระมัดระวังและประเมินผลกระทบอย่างเพียงพอ
“ผู้คนจะสูญเสียพื้นที่เพาะปลูกไปเป็นจำนวนมาก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหรือความขัดแย้งใดๆ ในอนาคต จำเป็นต้องมีการประเมินอย่างละเอียด ซึ่งเราควรทำทันที ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องยากมากขึ้นในการแก้ไขในภายหลัง” เจ้าหน้าที่ระบุ
ด้านชาวบ้านมีความรู้สึกผสมปนเปกัน เช่นชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่าคนในพื้นที่หลายคนสนับสนุนโครงการเพราะมันไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก
“เราต้องการเห็นประเทศพัฒนาและมีพลังงานมากเพียงพอ” ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว
“ผมคิดว่าการสร้างฟาร์มกังหันลมเป็นเรื่องง่าย บริษัทเพียงติดตั้งกังหันลมตามแนวชายแดนเวียดนามเท่านั้นเอง” ชาวบ้านกล่าว
แต่ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านละโกกล่าวว่าจำเป็นต้องมีความโปร่งใสมากกว่านี้
“ผมรู้ว่าการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเสร็จสิ้นแล้ว แต่ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและผู้คนยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ตอนนี้เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าป่าไม้มากเพียงใดและผู้คนจำนวนเท่าใดที่จะได้รับผลกระทบ” ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านละโก กล่าว
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของลาวกล่าวว่า การก่อสร้างโครงการยังไม่ได้เริ่มขึ้น
“บริษัทจำเป็นต้องมีข้อตกลงการซื้อขายไฟฟ้าก่อนจึงจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ผลิตจากโครงการนี้จะขายให้เวียดนาม ผมคิดว่าบริษัทอาจเริ่มก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานก่อน” เจ้าหน้าที่ กล่าว
ลาวและเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงในปี 2559 ที่ระบุว่าระหว่างปี 2563-2573 ลาวจะขายไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ให้เวียดนาม
สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีรายงานในเดือน ส.ค. ว่ารัฐบาลลาวไฟเขียวโครงการของบริษัทจากไทยแห่งหนึ่งเพื่อพัฒนาฟาร์มกังหันลมขนาด 1,000 เมกะวัตต์ในแขวงเซกอง ที่อยู่ทางตอนใต้ของลาวเช่นกัน.