รอยเตอร์ - พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำคณะรัฐบาลทหารพม่า ได้พบหารือกับทูตพิเศษจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) สื่อของทางการพม่ารายงานวันนี้ (11) ในขณะที่ลาวรับตำแหน่งประธานอาเซียนและสนับสนุนความพยายามสร้างสันติภาพในประเทศ
ผู้ปกครองทหารของพม่าได้พบกับนายอาลุนแก้ว กิตติคุน ผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนด้านสถานการณ์วิกฤตในพม่า ท่ามกลางความไม่พอใจที่นายพลพม่าขาดความมุ่งมั่นในการสร้างสันติภาพตามแผนที่ได้ตกลงร่วมกันในหมู่สมาชิกอาเซียนทั้งหมดรวมทั้งพม่าในปี 2564
พม่าเผชิญกับวงจรความรุนแรงที่ไม่หยุดหย่อนนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในการรัฐประหารปี 2564 อาเซียนได้เรียกร้องให้รัฐบาลทหารยุติความเป็นปรปักษ์ และปฏิบัติตามฉันทมติ 5 ข้อของกลุ่ม
รัฐบาลทหารปฏิเสธที่จะเริ่มการเจรจากับฝ่ายตรงข้าม ที่อยู่ในร่มเงาของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) และขบวนการต่อต้านสนับสนุนประชาธิปไตย ที่เป็นองค์ประกอบหลักของข้อตกลง โดยเรียกกลุ่มเหล่านี้ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
ลาวไม่ได้กล่าวถึงการเดินทางเยือนพม่าของทูตพิเศษในสื่อของทางการ หรือออกคำแถลงใดๆ เกี่ยวกับการประชุมในฐานะประธานอาเซียน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของลาวไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นในทันที
ความรุนแรงทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงหลายเดือนมานี้ เมื่อกองกำลังของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ตอนเหนือของพม่า พยายามที่จะขับไล่รัฐบาลทหารออกจากดินแดนของพวกเขา เข้ายึดฐานทหาร และแม้กระทั่งเมืองการค้าสำคัญบริเวณชายแดนติดกับจีน
กองทัพกำลังเผชิญกับการต่อสู้ในหลายแนวรบกับกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนประชาธิปไตย ที่เกิดขึ้นหลังจากการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ
ขณะที่นายพลพม่าถูกห้ามเข้าร่วมการประชุมระดับสูงของอาเซียน แต่กลุ่มยังคงรักษาความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางสำนักงานของทูตพิเศษ
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์รายงานว่า ผู้นำทั้งสองหารือกันถึงความพยายามของรัฐบาลที่จะประกันสันติภาพและเสถียรภาพของรัฐและความปรองดองแห่งชาติ
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่า รัฐบาลของเขากำลังดำเนินการตามฉันทมติ 5 ข้อของอาเซียนที่ปรับให้เข้ากับแผนการของสภาบริหารแห่งรัฐ หนังสือพิมพ์ระบุ
นายพลพม่าได้ประกาศแผน 5 ข้อของตนเองทันทีหลังเข้ายึดอำนาจ ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากแผนของอาเซียน โดยเน้นการฟื้นฟูประเทศจากการระบาดของโรค และตั้งคณะทำงานการเลือกตั้งของตนเองเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่เมื่อยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
จ่อ ซอ โฆษกของ NUG กล่าวว่า ทูตพิเศษควรพบหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่ใช่เพียงรัฐบาลทหาร
“ผ่านไปแล้ว 3 ปี ผู้นำรัฐบาลทหารได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะดำเนินการตามฉันทมติ 5 ข้อ การมีส่วนร่วมโดยตรงกับรัฐบาล NUG ที่ถูกต้องตามกฎหมาย กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ และกองกำลังต่อต้านถือเป็นสิ่งสำคัญ” จ่อ ซอ กล่าว.