xs
xsm
sm
md
lg

รมว.กลาโหม "เวียดนาม-ลาว-กัมพูชา" ประชุมร่วม วางแนวทางป้องกัน "ศัตรูที่คอยยุให้แตกสามัคคี"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ฟานวันยาง (กลาง) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเวียดนาม พล.อ.จันสะหมอน จันยาลาด (ซ้าย) รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศลาว และ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา (ขวา) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ประชุมร่วมกันที่จังหวัดกอนตูม ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566
MGR Online - รัฐมนตรีกลาโหมจาก 3 ประเทศอินโดจีน "เวียดนาม-ลาว-กัมพูชา" จัดประชุมร่วมเป็นครั้งที่ 2 เพื่อวางแนวทางความเคลื่อนไหวชายแดนให้สงบ มั่นคง ป้องกันอาชญากรรม และต่อต้านศัตรูร่วมที่คอยยุแยงให้ 3 พี่น้องแตกแยกกัน

Lao people's Army News เพจข่าวทางการของกองทัพประชาชนลาว รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของ 3 ประเทศอินโดจีน ประกอบด้วย พล.อ.ฟานวันยาง รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเวียดนาม พล.อ.จันสะหมอน จันยาลาด รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศลาว และ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้จัดการประชุมร่วมกันเป็นครั้งที่ 2 ที่จังหวัดกอนตูม


หัวข้อการประชุมตามที่มีการเปิดเผยจากสื่อทางการ เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องภารกิจบริเวณชายแดนของกองทัพ 3 ประเทศในช่วงที่ผ่านมา และวางแนวทางความร่วมมือที่กำลังจะทำร่วมกันในปีหน้า หลังเสร็จสิ้นการประชุม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม 3 ประเทศ ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือเพื่อใช้เป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับปฏิบัติการร่วมที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต

จังหวัดกอนตูม อยู่ตอนกลางของเวียดนาม มีชายแดนติดกับแขวงอัตตะปือ ของลาว และจังหวัดรัตนคีรี ของกัมพูชา โดยก่อนเริ่มการประชุม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของ 3 ประเทศ ได้เดินทางไปหลักเขตชายแดนร่วม เพื่อแสดงความเคารพและแต้มสีไว้เป็นหมุดหมาย ร่วมกันปลูกต้นไม้ที่จุดเชื่อมต่อชายแดน 3 ประเทศ จากนั้นเข้าชมการซ้อมรบของกำลังพล และคณะเสนาธิการร่วมจาก 3 กองทัพ

รัฐมนตรีกลาโหมของทั้ง 3 ประเทศ ยังไปเป็นประธานร่วมในพิธีเปิดหอวัฒนธรรม 3 กองทัพ รวมถึงไปเยี่ยมชมและมอบอุปกรณ์การเรียนให้โรงเรียนประถมเป่วันด่าน ตำบลเปออี อำเภองอกโงย ในจังหวัดกอนตูม

พล.อ.จันสะหมอน จันยาลาด รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศลาว กล่าวว่า การพบปะพูดคุยอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีกลาโหมจาก 3 ประเทศครั้งนี้มีความหมายที่สำคัญมาก เพราะลาว เวียดนาม และกัมพูชา เป็นประเทศที่มีชายแดนเชื่อมต่อกัน เคยตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน มีพื้นฐานความสามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกันแบบพี่น้องมาแต่ดึกดำบรรพ์ เคยร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันตลอดมา


ประชาชน 3 ชาติอินโดจีนเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันเพื่อต่อต้านจักรวรรดิต่างด้าวผู้รุกรานตัวเดียวกัน ฉะนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพ เงื่อนไขใด และในระยะเวลาใด พวกเราก็ไม่สามารถแยกจากกันได้

พล.อ.จันสะหมอน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา สถานการณ์ชายแดนของ 3 ประเทศมีความสงบโดยพื้นฐาน มีเสถียรภาพทางการเมืองมั่นคง องค์กรปกครองท้องถิ่น กองกำลังป้องกันชายแดน และประชาชนที่อยู่ตามชายแดน 3 ประเทศมีความสามัคคี และร่วมใจกันต่อต้าน สกัดกั้นเล่ห์เหลี่ยม กลอุบาย อิทธิพลของปรปักษ์ ที่หวังให้เกิดการแตกแยกกัน นอกจากนี้ ยังร่วมกันป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การค้าของเถื่อน การค้าและขนส่งยาเสพติด อาวุธสงคราม การค้ามนุษย์ การเข้าออกประเทศแบบผิดกฎหมาย การลักลอบขุดค้น ทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กองทัพโดยเฉพาะกองกำลังป้องกันชายแดนของทั้ง 3 ประเทศ เป็นกำลังหลักในการปกปักรักษา เสริมสร้างสายสัมพันธ์ ความสามัคคีที่มีต่อกันให้เจริญงอกงาม และพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันซึ่งคือความกินดีอยู่ดีของประชาชนลาว เวียดนาม และกัมพูชา พร้อมช่วยกันสร้างสรรค์จุดเชื่อมต่อ 3 ประเทศ ให้เป็นเส้นเขตแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือพัฒนาแบบยั่งยืนที่แท้จริง

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของลาว เวียดนาม และกัมพูชา ได้จัดการประชุมร่วมเป็นครั้งแรก ที่นครหลวงเวียงจันทน์ โดยขณะนั้น รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังเป็น พล.อ.เตีย บัญ ซึ่งเป็นพ่อของ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา.












กำลังโหลดความคิดเห็น