กองบัญชาการกองกำลังสหประชาชาติ (United Nations Command – UNC) อนุญาตให้ทหารที่ประจำการอยู่ที่หมู่บ้านปันมุนจอมในเขตปลอดทหารฝั่งเกาหลีใต้สามารถกลับมา “ถือปืน” ได้อีกครั้ง ในความเคลื่อนไหวที่สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี
UNC ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ มีกองกำลังนานาชาติคอยควบคุมดูแลกิจการภายในเขตปลอดทหาร (DMZ) ระหว่างพรมแดนของสองเกาหลี ซึ่งปัจจุบันยังคงถือว่าเป็น “คู่สงคราม” ในทางเทคนิค
หมู่บ้านปันมุนจอมซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า พื้นที่ความมั่นคงร่วม (Joint Security Area – JSA) ประกอบด้วยหมู่อาคารหลายหลังซึ่งมักถูกใช้เป็นสถานที่จัดการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ และมีทหารทั้ง 2 ฝ่ายยืนคุมเชิงประจันหน้ากันอยู่
ไอแซค เทย์เลอร์ โฆษก UNC แถลงว่า คำสั่งอนุญาตให้กองกำลัง UNC กลับมา “ติดอาวุธ” อีกครั้งมีขึ้น หลังจากที่ทหารของกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ (KPA) ก็ได้ปรับมาใช้จุดยืน “ติดอาวุธเพื่อความมั่นคง” ในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน
เทย์เลอร์ ยืนยันว่า คำสั่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการปกป้องทั้งพลเรือนและทหารในพื้นที่ชายแดน
“มาตรการนี้มีขึ้นเพื่อเฝ้าระวัง แต่ UNC ก็ได้แจ้งให้รัฐบาลเกาหลีใต้และกองทัพเกาหลีเหนือทราบจุดยืนของเราแล้วว่า การปลดอาวุธใน JSA นั้นปลอดภัย และเป็นการส่งเสริมสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีมากกว่า” เขากล่าว
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เห็นพ้องให้ปลดอาวุธทหารภายในเขต JSA ตามข้อตกลงที่ทำร่วมกันเมื่อปี 2018 แต่มีรายงานว่าทหารโสมแดงเริ่มกลับมาถือปืนอีกครั้งตั้งแต่เดือน พ.ย. หลังจากที่ขอระงับข้อตกลงทางทหารบางส่วน
เดือนที่แล้ว รัฐบาลเกาหลีใต้ก็ได้ระงับใช้บางส่วนของข้อตกลงที่มุ่งลดความตึงเครียดชายแดน เพื่อประท้วงที่เกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมสอดแนมสู่วงโคจร
เกาหลีเหนือตอบโต้ด้วยการฉีกข้อตกลงทั้งหมด พร้อมขู่จะส่งทหารและระบบอาวุธรุ่นใหม่ๆ มาตรึงพื้นที่ชายแดนเพิ่มขึ้น
ที่มา: รอยเตอร์