MGR Online - กองทัพว้า-เมืองลา ออกแถลงการณ์เป็นภาษาจีน ยืนยันท่าทีไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามระหว่างกองทัพพม่ากับ 3 กลุ่มติดอาวุธในนามพันธมิตรภาคเหนือที่รบกันดุเดือดมาตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม กำชับคู่กรณีไม่ว่าฝ่ายพม่าหรือ 3 พันธมิตรอย่าเข้ามาใช้ดินแดนว้าเป็นสมรภูมิ หากล้ำเส้นจะตอบโต้กลับโดยทันที
วานนี้ (1 พ.ย.) กองทัพสหรัฐว้า (UWSA) และกองทัพเมืองลา (NDAA) กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ 2 กลุ่ม ที่มีฐานที่มั่นอยู่ชายแดนรัฐชาน-จีน ได้ออกเอกสารแถลงการณ์ยืนยันท่าทีชัดเจนว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสู้รบที่กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือดในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของรัฐชาน ระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่มที่รวมตัวกันในนามพันธมิตรภาคเหนือ ได้แก่ กองทัพโกก้าง (MNDAA) กองทัพตะอั้ง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA)
โดยตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมา พันธมิตรภาคเหนือทั้ง 3 กลุ่ม ได้เปิดปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า 1027 แบ่งกำลังส่วนหนึ่งบุกโจมตีและยึดฐานที่มั่นของทหาร ตำรวจพม่า และกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ที่ตั้งไว้ตามแนวทางหลวงหมายเลข 3 ตั้งแต่หน้าด่านชายแดนหมู่เจ้ ผ่านเมืองน้ำผักกา ก๊ตขาย แสนหวี รวมถึงบริเวณโดยรอบเมืองล่าเสี้ยว ลงไปจนถึงเมืองหนองเขียว จังหวัดจ๊อกแม
ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่งได้บุกโจมตีและยึดฐานที่มั่นของทหาร ตำรวจพม่า ตามแนวทางหลวงหมายเลข 34 ตั้งแต่หน้าด่านชิงส่วยเหอ เมืองกุ๋นโหลง ลงไปถึงเมืองแสนหวี และยังมีกำลังอีกส่วนหนึ่งที่เข้าโจมตีและยึดฐานที่มั่นของทหารพม่าที่ตั้งอยู่โดยรอบเมืองเล่าก์ก่ายและเมืองโก
พื้นที่ซึ่งกำลังมีการสู้รบกันนั้นเป็นเส้นทางการค้าหลักตามแนวระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า โดยเฉพาะฝั่งจีน เพราะเป็นเส้นทางหลักสำหรับใช้ขนส่งสินค้าทุกชิ้นที่จีนขายเข้าไปในพม่าผ่านด่านชายแดนหมู้เจ้และชิงส่วยเหอ โดยมูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศผ่านด่านชายแดน 2 แห่งนี้ แต่ละปีมีมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในเอกสารแถลงการณ์ของกองทัพว้าและกองทัพเมืองลา ซึ่งถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ในรัฐชานเมื่อวานนี้ มีเนื้อหาหลักคล้ายคลึงกันโดยระบุว่า ทั้งกองทัพว้าและกองทัพเมืองลาจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่กำลังสู้รบกันอยู่ และขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและหันหน้ามาเจรจากัน
แต่เนื้อหาในเอกสารของกองทัพว้ายังเขียนกำชับไว้ด้วยว่า กองทัพว้าจะไม่ยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามาใช้ดินแดนที่ว้าดูแลอยู่เป็นสนามรบ โดยหากมีทหารของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรุกล้ำเข้ามา หรือแม้แต่มีการนำเครื่องบินรบ บินผ่านเข้ามาในน่านฟ้าที่เป็นดินแดนของกองทัพว้า ทางกองทัพว้าจะมีการตอบโต้กลับโดยทันที
เอกสารแถลงการณ์ของกองทัพว้าที่ถูกเผยแพร่มี 1 ฉบับ เขียนเนื้อหาโดยใช้ภาษาจีน ส่วนเอกสารแถลงการณ์ของกองทัพเมืองลา มี 2 ฉบับ เป็นฉบับภาษาจีนและภาษาพม่า
ทั้งกองทัพว้า กองทัพเมืองลา กองทัพโกก้าง กองทัพตะอั้ง และกองทัพอาระกัน ล้วนเป็นสมาชิกของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ 7 กลุ่ม ที่รวมตัวกันในนาม FPNCC(Myanmar Peace Commission and Federal Political Negotiation Consultative Committee) โดยกองกำลังที่เป็นสมาชิกอีก 2 กลุ่ม ได้แก่ กองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) และพรรคก้าวหน้ารัฐชาน (SSPP/SSA) หรือกองทัพรัฐชานเหนือ
FPNCC เป็นการรวมตัวกันของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ไม่เข้าร่วมลงนามในสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) กับรัฐบาลพม่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อกลางปี 2558 โดยมีสาธารณรัฐประชาชนจีนให้การสนับสนุน เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มส่วนใหญ่มีฐานที่มั่นอยู่บริเวณชายแดนรัฐชาน-จีน ได้แก่ กองทัพคะฉิ่น กองทัพโกก้าง กองทัพว้า และกองทัพเมืองลา
อย่างไรก็ตาม หลังการรัฐประหาร และ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) พม่า ได้เชิญชวนกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ทั่วประเทศเข้าร่วมกระบวนการเจรจาสันติภาพกับ SAC ซึ่งกองทัพว้า กองทัพเมืองลา และพรรคก้าวหน้ารัฐชาน ได้ส่งตัวแทนเข้าเจรจากับ SAC แล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 ส่วนกองทัพคะฉิ่น กองทัพโกก้าง กองทัพตะอั้ง ไม่ยอมเจรจา และยังคงสู้รบอยู่กับกองทัพพม่าในพื้นที่รัฐชาน รัฐคะฉิ่น ภาคสะกาย และบางส่วนของภาคมัณฑะเลย์
ขณะที่กองทัพอาระกันนั้น แม้ว่าได้ตกลงหยุดยิงอย่างไม่เป็นทางการกับกองทัพพม่าในพื้นที่รัฐยะไข่ไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 แต่เนื่องจากกองทัพอาระกันติดพันธสัญญาที่เคยทำไว้กับกองทัพคะฉิ่นกับกองทัพโกก้างตั้งแต่เมื่อเริ่มก่อตั้งกองทัพใหม่ๆ จึงได้ส่งทหารเข้าร่วมรบกับกองทัพโกก้าง และกองทัพตะอั้งด้วย ในนามของพันธมิตรภาคเหนือ.