xs
xsm
sm
md
lg

รมต.กลาโหมพม่าพบผู้นำกองทัพจีน หลังพันธมิตรภาคเหนือเปิดปฏิบัติการ 1027

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ติ่นอ่องซาน (ซ้าย) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมพม่า จับมือกับ จาง โย่วเสีย รองประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลางจีน
MGR Online - รมว.กลาโหมพม่าประชุมร่วมกับผู้นำกองทัพจีน หลังพันธมิตรภาคเหนือเปิดปฏิบัติการ 1027 นำกำลังเข้ายึดเส้นทางการค้าตลอดแนวระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่าในภาคเหนือของรัฐชาน 2 วัน เผยเป็นเหตุซ้ำรอยที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 สมัยรัฐบาล NLD ที่กองกำลังติดอาวุธ 3 กลุ่ม เอาผลประโยชน์ของจีนเป็นประกันเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรอง

วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา พล.อ.ติ่นอ่องซาน กรรมการสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมพม่า ได้นำคณะเข้าประชุมทวิภาคีกับจางโย่วเสีย (Zhang Youxia) รองประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง สาธารณรัฐประชาชนจีน และทีมงาน ที่กรุงปักกิ่ง

พล.อ.ติ่นอ่องซาน ได้เดินทางไปปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมประชุมด้านความมั่นคงเซียงซานฟอรั่ม (Xiangshan Forum) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม 2566 โดยมี 90 ประเทศ ส่งตัวแทนเข้าร่วม

การประชุมร่วมระหว่างทีมงานของจาง โย่วเสีย กับ พล.อ.ติ่นอ่องซาน
เนื้อหาการประชุมทวิภาคีระหว่างรองประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลางของจีน กับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมพม่า ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนเริ่มด้วยการกระชับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องระหว่าง 2 ประเทศ การการกระชับความสัมพันธ์และความเชื่อมั่นระหว่างกันของกองทัพพม่าและกองทัพจีนในพื้นที่ชายแดน โดยจีนจะให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในพม้า รวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยตลอดแนวชายแดนจีนและพม่า

แม้เป็นการประชุมที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่จังหวะที่ผู้นำทางการทหารของจีนและพม่าได้พบปะกันครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม ที่รวมตัวกันในนามพันธมิตรภาคเหนือ ได้เปิด "ปฏิบัติการ 1027" (Operation 1027) โดยนำกำลังเข้ายึดพื้นที่สำคัญหลายจุดที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางการค้าหลักของจีนในภาคเหนือของรัฐชานโดยพร้อมเพรียงกัน ในเวลา 04.00 น. ของวันที่ 27 ตุลาคม 2566






พันธมิตรภาคเหนือ ประกอบด้วย กองทัพโกก้าง (MNDAA) กองทัพตะอั้ง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA) โดยกองทัพโกก้างได้บุกโจมตีและยึดด่าน ป้อมตำรวจ รวมถึงฐานที่มั่นของทหารพม่า ที่ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 34 ตั้งแต่หน้าด่านชิงส่วยเหอ เมืองกุ๋นโหลง ก่อนถึงเมืองแสนหวี นอกจากนี้ ยังบุกโจมตีฐานของทหารพม่า ตั้งแต่เมืองโก จังหวัดหมู่เจ้ ลงมาจนถึงเมืองเล่าก่าย ในเขตปกครองตนเองชนชาติโกก้าง

ส่วนกองทัพตะอั้ง และอาระกัน ได้บุกโจมตีและยึดฐานที่มั่นทางการทหารตามทางหลวงหมายเลข 3 ตั้งแต่หน้าด่านหมู่เจ้ เมืองน้ำผักกา เมืองก๊ตขาย ลงมาถึงเมืองแสนหวี รวมถึงพื้นที่โดยรอบเมืองล่าเสี้ยว ต่อไปจนถึงเมืองหนองเขียว จังหวัดจ๊อกแม

ทั้ง 2 ฝ่ายได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด มีการใช้อาวุธหนัก ส่งผลให้มีการสูญเสีย ไม่เฉพาะกำลังพลของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ยังรวมถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สู้รบที่ถูกลูกหลง ทั้งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บไปแล้วหลายสิบราย

Tai TV Online รวบรวมข้อมูลล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) ว่า วัด 10 แห่ง ในเมืองแสนหวี มีผู้อพยพเข้าไปหลบภัยจากการสู้รบครั้งนี้แล้วมากกว่า 2,500 คน ส่วนในเมืองล่าเสี้ยว มีคนอพยพไปหลบภัยอยู่ในวัด 11 แห่ง มากกว่า 3,600 คน

ผลจากปฏิบัติการ 1027 ทำให้ตลอด 4 วันมานี้ ภายในตัวเมืองหลักๆ เช่น เล่าก์ก่าย แสนหวี ล่าเสี้ยว แทบเป็นเมืองร้าง เพราะผู้คนไม่กล้าเดินทางออกนอกที่พักอาศัย ส่วนถนนหลักซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่จีนส่งเข้ามาขายในพม่า ทั้งทางหลวงหมายเลข 3 และ 34 จากชายแดนหมู่เจ้-ชิงส่วยเหอ ผ่านแสนหวี ล่าเสี้ยว หนองเขียว แทบไม่มีรถวิ่ง โดยเฉพาะรถขนส่งสินค้า

 บางส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นตามเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า จากปฏิบัติการ 1027 ของพันธมิตรภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2566
มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ ที่ศูนย์ขนถ่ายสินค้าหลักไมล์ 105 ในเมืองหมู่เจ้ รถบรรทุกจากจีนที่ต้องใช้เส้นทางเหล่านี้ขนสินค้าเข้าไปส่งพื้นที่ชั้นในของพม่า ได้จอดค้างอยู่นับพันคัน เพราะคนขับรถเกรงจะได้รับอันตราย จึงไม่กล้าขับรถออกไป

ปฏิบัติการ 1027 เป็นปฏิบัติการลักษณะเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ในสมัยรัฐบาลพรรค NLD ของอองซาน ซูจี ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม กระทั่งคลี่คลายลงในต้นเดือนพฤศจิกายน โดยพันธมิตรภาคเหนือได้นำกำลังบุกโจมตีโรงเรียนนายร้อยเทคนิคในเมืองปินอูลวิน วางระเบิดสะพานก๊กตวิน ในหุบเขาก๊กเทค วางระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำสาละวินที่เมืองกุ๋นโหลง จนสะพานทั้ง 2 แห่งไม่สามารถใช้การได้ ทำให้การขนส่งสินค้าที่พม้าและจีนซื้อขายกันผ่านด่านหมู่เจ้ และชิงส่วยเหอต้องเป็นอัมพาตไปถึงกว่า 1 เดือนเต็ม และสร้างความไม่พอใจแก่รัฐบาลจีนเป็นอย่างมาก






วันที่ 27 สิงหาคม 2562 อู จ่อตินส่วย รัฐมนตรีกระทรวงสำนักที่ปรึกษาแห่งรัฐ ในรัฐบาลของพรรค NLD เดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อเข้าพบกับ หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนในขณะนั้น สำนักข่าวซินหัว รายงานว่าหัวข้อที่มีการพูดคุยกัน คือ สถานการณ์สู้รบบริเวณชายแดนรัฐชาน-จีน ในภาคเหนือของรัฐ โดยหวังอี้ยืนยันว่าจีนสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในพม่าอย่างเต็มที่ และหวังว่าสถานการณ์ในภาคเหนือของรัฐชาน จะสามารถยุติลงได้บนโต๊ะเจรจา ด้วยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน

มีความพยายามเจรจากันระหว่างตัวแทนรัฐบาลของพรรค NLD กับตัวแทนพันธมิตรภาคเหนือ โดยใช้เมืองเชียงตุงเป็นที่จัดประชุมกันอย่างน้อย 3 ครั้ง ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2562 แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าสู่ปี 2563 เกิดการระบาดของโควิด-19 ในจีนและแพร่ลามเข้ามาในพม่า ทำให้การเจรจาทุกอย่างต้องหยุดชะงักไป.

อู จ่อตินส่วย (ซ้าย) รัฐมนตรีกระทรวงสำนักที่ปรึกษาแห่งรัฐ เป็นตัวแทนอองซาน ซูจี บินไปพบกับหวังอี้ (ขวา) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ถึงกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562


กำลังโหลดความคิดเห็น