สมาคมอาหารเวียดนามเผยยังไม่มีแผนควบคุมการส่งออกข้าว หลังหลายฝ่ายกังวลอินเดียระงับส่งออก

รอยเตอร์ - เวียดนามไม่มีแผนที่จะจำกัดการส่งออกข้าว เจ้าหน้าที่อาวุโสของสมาคมอาหารของประเทศกล่าว หลังจากอินเดียควบคุมการส่งออก ที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานข้าวทั่วโลก

“ในขณะนี้บริษัทต่างๆ ของเวียดนามส่งออกข้าวตามปกติ” เหวียน หง็อก นาม ประธานสมาคมอาหารเวียดนาม ที่เป็นตัวแทนของผู้แปรรูปและส่งออกข้าวของประเทศ และทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาล กล่าว

อินเดียที่ครองสัดส่วน 40% ของการส่งออกข้าวของโลก ได้สั่งระงับส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติ เมื่อกว่า 1 สัปดาห์ก่อน เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาข้าวในประเทศ ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายปีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนกระทบการผลิต

เหวียน หง็อก นาม กล่าวว่า ราคาข้าวเวียดนามพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่อินเดียระงับส่งออกเมื่อวันที่ 20 ก.ค. และยังกล่าวเสริมว่าการเก็บเกี่ยวพืชผลในฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วงยังคงดำเนินต่อไปในเวียดนาม ที่เป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากอินเดีย และไทย

ราคาข้าวหัก 5% ของเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 550-575 ดอลลาร์ต่อตัน ในวันจันทร์ (31) ตามการระบุของผู้ค้า สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 จากช่วง 515-525 ดอลลาร์ ก่อนอินเดียระงับส่งออก

หนึ่งวันหลังจากอินเดียประกาศควบคุมการส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามได้เรียกร้องให้สมาคมตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีข้าวในประเทศเพียงพอเพื่อความมั่นคงทางอาหาร และขอให้ผู้ค้ารักษาสมดุลระหว่างการส่งออกและจำหน่ายในประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาในประเทศ

การจัดส่งข้าวจากเวียดนามในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 18.7% จากปีก่อนหน้า เป็น 4.84 ล้านตัน ตามข้อมูลเบื้องต้นของรัฐบาล ส่วนรายได้จากการส่งออกข้าวในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้น 29.6% ที่ 2,580 ล้านดอลลาร์

เมื่อวันศุกร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศว่าจะห้ามส่งออกข้าวและส่งออกซ้ำเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งรวมถึงข้าวที่มาจากอินเดียด้วย

ประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าประเทศต้องเพิ่มสต๊อกข้าว และเขาอาจทำข้อตกลงด้านอุปทานกับอินเดีย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้งแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญต่อการเก็บเกี่ยวในท้องถิ่นและผู้จัดหารายอื่นๆ

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม.