MGR ออนไลน์ - พล.อ.เตีย บัญ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา และเตีย เซ็ยฮา ลูกชาย ที่คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าจะรับช่วงตำแหน่งของบิดาในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมฐานทัพเรือที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีน
นี่เป็นโครงการทางทหารโครงการแรกที่ 2 พ่อลูกเดินทางไปเยือน นับตั้งแต่ประเทศจัดการเลือกตั้งแบบฝ่ายเดียวที่พรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนชนะอย่างถล่มทลาย
ในภาพชุดที่เผยแพร่ทางหน้าเพจเฟซบุ๊กของ พล.อ.เตีย บัญ เผยให้เห็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมผู้นี้รายล้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาระหว่างเยี่ยมชมฐานทัพเรือเรียม ในวันอาทิตย์ (30)
“โครงการกำลังดำเนินการตามแผน” พล.อ.เตีย บัญ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดเวลาใดๆ
“โครงการนี้จะเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพเรือไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในอนาคต” ข้อความระบุ
เตีย เซ็ยฮา วัย 38 ปี ลูกชายคนที่ 2 ของเตีย บัญ อยู่ในคณะผู้ติดตาม รวมถึง พล.ร.อ.เตีย วิญ น้องชายของเตีย บัญ และเตีย สุขะ ลูกชายของเตีย วิญ
ปัจจุบัน เตีย เซ็ยฮา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ จ.เสียมราฐ และยังเป็นนายพล 3 ดาวในกองทัพบกกัมพูชา
จากเอกสารทางการที่รั่วไหลออกมาซึ่งสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรี (RFA) ได้เห็นนั้นระบุว่าเขาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมของเตีย บัญ
ลูกๆ ของผู้นำคนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งยังถูกคาดหมายว่าจะเข้ารับตำแหน่งแทนพ่อแม่ของพวกเขา ที่รวมถึงฮุน มาเนต ลูกชายของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน
เตีย วิญ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพเรือกัมพูชาคนปัจจุบัน และในเดือน พ.ย.2564 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรกับเตีย วิญ จากการทุจริตคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับฐานทัพเรือเรียม
การก่อสร้างที่ฐานทัพเรือเรียม ที่ตั้งอยู่ใน จ.สีหนุวิลล์ ทางฝั่งอ่าวไทย ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ตามรายงานล่าสุดของ BlackSky บริษัทภาพถ่ายดาวเทียมของสหรัฐฯ โดยเมื่อต้นเดือน สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีรายงานว่าภาพถ่ายดาวเทียมที่ทางสำนักข่าวได้รับเผยให้เห็นถึงการพัฒนาที่สำคัญที่ฐานทัพดังกล่าว ซึ่งในตอนนี้ติดตั้งท่าเรือน้ำลึกที่สามารถรองรับเรือบรรทุกเครื่องบินได้
เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ท่าเรือดังกล่าวถูกขยายขนาดขึ้น ซึ่งสามารถวัดความยาวของท่าเทียบเรือได้ประมาณ 300 เมตร นั่นหมายความว่าท่าเรือแห่งนี้สามารถรองรับเรือรบขนาดใหญ่ของกองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชน รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน Type 003 ได้ นอกจากนี้ พื้นที่ทางตอนใต้ของฐานทัพยังถูกปรับให้สามารถใช้งานได้เพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า
รายงานของ BlckSky อ้างคำกล่าวของ เครก ซิงเกิลตัน รองผู้อำนวยการโครงการจีนและนักวิชาการอาวุโสของมูลนิธิ Foundation for Defense of Democracies ว่า มีความคล้ายคลึงกันที่เกือบจะแน่นอนระหว่างท่าเรือที่ฐานทัพเรือเรียมและท่าเรือทางทหารอีกแห่งหนึ่งยังฐานสนับสนุนของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนในประเทศจิบูตี
ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของฐานทัพแห่งนี้ ทำให้ฐานทัพเรือเรียมสามารถช่วยปักกิ่งขยายอำนาจไม่เพียงแค่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังรวมถึงช่องแคบไต้หวัน ซึ่งสถานที่นี้จะกลายเป็นฐานทัพเรือแห่งแรกของจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่ 2 ในโลกถัดจากฐานในประเทศจิบูตี รายงานระบุ
โครงการก่อสร้างที่ฐานทัพเรือเรียมเริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อนด้วยเงินทุนของปักกิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม พนมเปญปฏิเสธหลายครั้งว่าจีนไม่ได้รับสิทธิพิเศษทางทหารในการเข้าถึงฐานทัพดังกล่าว โดยระบุว่าจะเป็นการขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญของกัมพูชา.