xs
xsm
sm
md
lg

PDF รัฐกะยาขอระดมทุน 1.5 แสนดอลล์ สร้าง UAVs ปีกตรึงบินไปทิ้งระเบิดทหารพม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โฆษณาระดมทุน 1.5 แสนดอลลาร์ ให้ KNDF นำไปใช้พัฒนาอากาศยานไร้คนขับชนิดปีกตรึง เพื่อบินระยะไกลไปทิ้งระเบิดใส่ทหารพม่า
MGR Online - หน่วย UAV ของ PDF ในรัฐกะยา อาศัยจังหวะที่จะมีการจัดปอยข้าวต้มมัด เทศกาลประจำปีของชาวกะเหรี่ยงแดงในเดือนกันยายนนี้ ขอระดมทุน 1.5 แสนดอลลาร์จากผู้สนับสนุนทั่วโลก นำมาสร้างอากาศยานไร้คนขับชนิดปีกตรึง สำหรับบินระยะไกลไปทิ้งระเบิดใส่ทหารพม่า

สำนักข่าว Kantarawaddy Times รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ฝ่ายอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งเป็นหน่วยรบในสังกัดกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF - UAV Department) ได้อาศัยจังหวะที่กำลังจะมีการจัด “ดีกู่” หรือ “ปอยข้าวต้มมัด” ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จัดโครงการระดมเงินทุนจากผู้สนับสนุนที่อยู่ในทุกประเทศทั่วโลก เพื่อนำเงินมาสร้างอากาศยานไร้คนขับชนิดปีกตรึง (Long Range Fixed-Wing UAVs) สำหรับใช้บินระยะไกล นำระเบิดไปทิ้งโจมตีหน่วยทหารของกองทัพพม่า ซึ่งตั้งกระจายอยู่หลายพื้นที่ในรัฐกะยา

“ดีกู่” เป็นเทศกาลที่ชาวกะเหรี่ยงแดงจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงแดงที่ว่า ดีกู่ หรือข้าวต้มมัดเป็นเสบียงที่ทำให้บรรพบุรุษของพวกเขาสามารถสู้รบจนชนะสงครามได้ในอดีต จึงต้องมีการจัดเฉลิมฉลองเพื่อระลึกถึงบุญคุณของข้าวต้มมัด

ที่ตั้งรัฐกะยา
กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) ตั้งชื่อโครงการระดมทุนครั้งนี้ว่า “การรณรงค์ไล่ผีแอโด่ป่อหมี่” หรือ Edopomie (Deeku) Exorcism Fundraising Campaign โดยอ้างถึงความโหดร้ายที่ทหารพม่าภายใต้การนำของสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) หรือ “สภาทหาร” ได้กระทำต่อชาวกะเหรี่ยงแดงมาตลอด 2 ปี ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารขึ้นในในปี 2564 จึงจำเป็นต้องมีอาวุธที่ทันสมัยเพื่อนำมาใช้ตอบโต้ ขับไล่กองทัพพม่า

KNDF ระบุว่า ต้องการวงเงินจำนวน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 450 ล้านจั๊ต หรือ 5.25 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาอากาศยานไร้คนขับชนิดปีกตรึงในครั้งนี้ โดยให้ผู้ที่ต้องการสนับสนุนสามารถใช้บัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ไทยทุกแห่ง โอนเงินให้ KNDF ผ่านทางแอปพลิเคชัน NUGPay Wave Pay และ KBZpay กำหนดระยะเวลารับเงินสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2566

กะยาเป็นรัฐชาติพันธุ์ที่เล็กที่สุดซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของพม่า พรมแดนยาวด้านทิศตะวันออกของรัฐกะยาติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนของประเทศไทย ส่วนทางทิศเหนือติดกับพื้นที่รัฐขาน ทิศตะวันตกและทิศใต้ติดกับรัฐกะเหรี่ยง ประชากรส่วนใหญ่ในรัฐกะยาเป็นชาวกะเหรี่ยงแดง นอกจากนั้นเป็นชาวไทใหญ่ ชาวปะโอ และชาวพม่า (โปรดดูแผนที่ประกอบ)

ปฏิบัติการของ UAV ของกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF)
แม้เป็นรัฐชาติพันธุ์ที่เล็กที่สุด แต่สงครามสู้รบระหว่างกองกำลังติดอาวุธในรัฐกะยากับกองทัพพม่า จัดว่ารุนแรงและโหดร้ายมากที่สุดเมื่อเทียบกับอีกหลายพื้นที่ในพม่า ปัจจุบัน มีชาวบ้านจากรัฐกะยามากกว่า 4,000 คน ที่ได้อพยพเข้ามาอาศัยพื้นที่ปลอดภัยอยู่ในอำเภอแม่สะเรียง และขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน และยังคงมีการอพยพเพิ่มเติมเข้ามาทุกวัน

KNDF เป็นกองกำลังติดอาวุธ (PDF) กลุ่มหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) หรือรัฐบาลเงาของอดีตสมาชิกพรรค NLD ที่กำลังต่อสู้กับกองทัพพม่าอยู่ในรัฐกะยา อย่างไรก็ตาม ภายในรัฐกะยาเองยังมีกองกำลังติดอาวุธของชาวกะเหรี่ยงแดงอีกหลายกลุ่ม ที่กำลังต่อสู้กับกองทัพพม่าอยู่ในขณะนี้

รัฐกะยายังเป็นรัฐแรกที่ PDF นำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับมาใช้ในการสู้รบกับกองทัพพม่า ตั้งแต่กลางปี 2564 เริ่มจากการนำโดรนเพื่อการเกษตรมาดัดแปลงติดระเบิดและกล้องแล้วบินไปทิ้งใส่หน่วยทหารพม่า ส่วนแผนกอากาศยานไร้คนขับของ KNDF เป็นหน่วยรบที่อ้างว่าเป็นผู้ผลิตและพัฒนาโดรนส่งให้กองกำลังติดอาวุธทุกกลุ่มในรัฐกะยา

รัฐกะยายังเป็นพื้นที่ปฏิบัติการหลักขององค์กร NGO จากสหรัฐอเมริกา ที่ใช้ชื่อว่า Free Burma Rangers ที่ส่งเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติเข้าไปในเคลื่อนไหว โดยอ้างว่าเป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อมนุษยธรรม และเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา เดวิด ยูแบงก์ ผู้อำนวยการ Free Burma Rangers ซึ่งเป็นอดีตนายทหารหน่วยรบพิเศษ (Ranger) ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในรัฐกะยา เพิ่งทวีตขอบคุณอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ ที่ได้ส่งกลุ่มดาวเทียมสตาร์ลิงค์ มาช่วยปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตลงยังพื้นที่รัฐกะยา เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ หลังจากสภาทหารได้สั่งตัดทั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ในหลายจุดของรัฐกะยา มาระยะหนึ่งแล้ว.





ทวีตขอบคุณอีลอน มัสก์ ของเดวิด ยูแบงก์ ผู้อำนวยการ Free Burma Rangers เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566


กำลังโหลดความคิดเห็น