เอเอฟพี - ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่ากองทัพพม่าใช้ระเบิดสุญญากาศในการโจมตีทางอากาศใส่หมู่บ้านของฝ่ายต่อต้านที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนเมื่อเดือนก่อน
การสู้รบเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของพม่านับตั้งแต่กองทัพทำรัฐประหารในปี 2564 ที่จุดชนวนการปะทะกันครั้งใหม่กับกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ ตลอดจนการก่อตั้งกองกำลังพิทักษ์ประชาชนหลายสิบกลุ่มที่ต่อสู้กับรัฐบาลทหารในตอนนี้
ทหารทิ้งระเบิดในงานชุมนุมยังฐานที่มั่นของฝ่ายต่อต้านเมื่อเดือนก่อน ที่สื่อและคนท้องถิ่นกล่าวว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 170 คน นำมาซึ่งเสียงประณามจากทั่วโลกอีกครั้ง
ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่า ทหารใช้ระเบิดเทอร์โมบาริกในการโจมตีหมู่บ้าน Pazi Gyi ในเขตสะกาย โดยการประเมินของพวกเขามาจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายศพของเหยื่อ และวิดีโอของสถานที่เกิดเหตุหลังการโจมตี
ระเบิดเทอร์โมบาริก หรือที่เรียกว่าระเบิดสุญญากาศ มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงกว่าระเบิดแรงสูงทั่วไป โดยใช้การจุดชนวนระเบิดแยก 2 ครั้ง เมื่อระเบิดถูกยิงออกไปหรือถูกทิ้งลงมาแล้ว เมื่อถึงเป้าหมายจะเกิดการระเบิดครั้งแรกเพื่อปล่อยละอองลอยที่เป็นวัตถุระเบิดออกมา เมื่อกลุ่มละอองแพร่กระจายเป็นวงกว้าง จากนั้นจะมีการจุดชนวนระเบิดครั้งที่ 2 ทำให้เกิดคลื่นกระแทกรุนแรงและละอองลอยติดไฟลุกไหม้ ซึ่งจะดูดเอาออกซิเจนรอบข้างเข้าไปและก่อตัวเป็นลูกไฟขนาดใหญ่
“ระเบิดเทอร์โมบาริกที่ถูกใช้ในหมู่บ้าน Pazi Gyi ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนโดยขาดซึ่งการพิจารณาและไม่ได้สัดส่วน และเป็นอาชญากรรมสงครามอย่างชัดเจน” ฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุ
แม้อาวุธเทอร์โมบาริกไม่ได้ถูกห้ามอย่างเฉพาะเจาะจงตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ แต่การใช้กับพลเรือนอาจถูกตัดสินว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม
รัฐบาลทหารกล่าวว่า พวกเขาดำเนินการโจมตีทางอากาศอย่างจำกัดในหมู่บ้าน Pazi Gyi แต่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากการโจมตีโดนคลังอาวุธ
วิกฤตพม่าเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมผู้นำจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งเริ่มขึ้นที่อินโดนีเซียในวันอังคาร
กลุ่มอาเซียนเป็นผู้นำความพยายามทางการทูตที่จะแก้ไขวิกฤตนองเลือดแต่รัฐบาลทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียและจีนที่เป็นพันธมิตรและผู้จัดหาอาวุธ ปฏิเสธที่จะเจรจากับฝ่ายตรงข้าม
ฮิวแมนไรท์วอทช์เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติรับรองการห้ามค้าอาวุธกับพม่า และยื่นฟ้องรัฐบาลทหารยังศาลอาญาระหว่างประเทศ และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรธุรกิจของกองทัพ
“ปฏิบัติการทางทหารที่ไม่เหมาะสมของรัฐบาลทหารพม่าขึ้นอยู่กับความสามารถในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งอาเซียนและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะเป็นต้องพิจารณาทบทวนวิธีการของพวกเขาต่อรัฐบาลทหารของพม่า และดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวมากขึ้น” ฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุ.