รอยเตอร์ - ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า ไวรัสที่ทำให้คน 2 คนติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ในกัมพูชา เป็นไข้หวัดนกสายพันธุ์ประจำถิ่นที่ระบาดอยู่ในประเทศ
กรณีการติดเชื้อที่รายงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจเกิดจาก H5N1 สายพันธุ์ใหม่ กลุ่มย่อย 2.3.4.4b ที่เกิดขึ้นในปี 2563 และทำให้นกป่าและสัตว์ปีกในประเทศตายเป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
แต่จากการตรวจสอบจนถึงขณะนี้บ่งชี้ว่าไม่ใช่สายพันธุ์ย่อยดังกล่าว
จากการตรวจหาลำดับพันธุกรรมเบื้องต้นที่ดำเนินการในกัมพูชา กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ไวรัสชนิดนี้เป็นกลุ่มย่อย 2.3.2.1c ที่แพร่ระบาดอยู่ในกัมพูชาในหมู่นกและสัตว์ปีกมานานหลายปีแล้ว และเกิดการติดเชื้อในคนอยู่เป็นระยะ CDC ระบุในคำแถลงเมื่อวันเสาร์ (25)
“ใช่ นี่เป็นสายพันธุ์เก่าแก่ของไข้หวัดนกที่แพร่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคนี้มานานหลายปี และขณะเดียวกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อในคนในอดีตที่ผ่านมา แต่ยังไม่พบว่ามีการแพร่เชื้อจากคนสู่คน แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าภัยคุกคามจะน้อยลง” เอริค คาร์ลสัน ผู้อำนวยการศูนย์ไข้หวัดใหญ่แห่งชาติกัมพูชา และรักษาการหัวหน้าฝ่ายไวรัสวิทยาของสถาบันปาสเตอร์ ที่หาลำดับพันธุกรรม กล่าว
คาร์ลสัน เสริมว่า จำเป็นต้องดำเนินการตอบสนองอย่างรวดเร็วและประสานกันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเพิ่มเติมและจำกัดการสัมผัสกับแหล่งโรค
CDC ระบุว่า การสอบสวนแหล่งโรคและการตรวจหาผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอยู่ระหว่างดำเนินการ และเสริมว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการแพร่กระจายจากคนสู่คน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กัมพูชาได้ตรวจหาเชื้อ H5N1 กับผู้สัมผัสใกล้ชิดกับเด็กหญิงอายุ 11 ปี ที่เสียชีวิตจากเชื้อดังกล่าวอย่างน้อย 12 คน โดยเด็กหญิงรายนี้ถือเป็นการติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ในคนเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีของกัมพูชา
ส่วนพ่อของเด็กที่อยู่ในกลุ่มใกล้ชิดมีผลตรวจเชื้อเป็นบวก แต่ไม่แสดงอาการใดๆ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขระบุในคำแถลงเมื่อวันศุกร์ (24)
องค์การอนามัยโลกระบุว่า หน่วยงานกำลังทำงานร่วมกับทางการกัมพูชาเพื่อติดตามกรณีดังกล่าว โดยอธิบายว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงเนื่องจากจำนวนการติดเชื้อในนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา.