เอพี - เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การอนามัยโลกตอบสนองต่อการเสียชีวิตของเด็กหญิงวัย 11 ปี ในกัมพูชาที่ติดเชื้อไข้หวัดนก ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสในทั่วโลก และการติดเชื้อในคนเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
ดร.ซิลวี ไบรอันด์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเตรียมความพร้อมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า หน่วยงานของสหประชาชาติกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางการกัมพูชาเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการระบาด
ดร.ไบรอันด์ ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลกเกี่ยวกับไข้หวัดนกว่า ‘น่ากังวล’ เนื่องจากไวรัสแพร่กระจายเป็นวงกว้างในนกทั่วโลก และมีรายงานการติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงมนุษย์เพิ่มขึ้น
“องค์การอนามัยโลกตระหนักถึงความเสี่ยงจากไวรัสนี้อย่างจริงจัง และเรียกร้องให้ทุกประเทศเพิ่มความระมัดระวัง” ดร.ไบรอันด์ กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญอิสระยังแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ไข้หวัดนกที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่อาจก่อความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน
เด็กหญิงชาวกัมพูชาจากหมู่บ้านใน จ.เปรยเวง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เสียชีวิตเมื่อวันพุธ (22) ที่โรงพยาบาลในกรุงพนมเปญ ไม่นานหลังผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา เด็กหญิงล้มป่วยเมื่อวันที่ 16 ก.พ. และหลังจากอาการแย่ลง เด็กถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยอาการไข้สูง 39 องศา พร้อมกับอาการไอและเจ็บคอ
พ่อของเด็กตรวจพบเชื้อไวรัสเช่นกัน แต่ไม่แสดงอาการสำคัญใดๆ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุเมื่อวันศุกร์
โดยปกติแล้วไข้หวัดนกแพร่กระจายระหว่างสัตว์ปีกที่ป่วย แต่บางครั้งสามารถแพร่กระจายจากสัตว์ปีกไปสู่คนได้ และจากการตรวจพบการติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดเมื่อไม่นานนี้ รวมถึงที่ฟาร์มมิงค์ในสเปน ทำให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญว่า ไวรัสสามารถพัฒนาเพื่อแพร่กระจายระหว่างคนได้ง่ายขึ้น และอาจก่อให้เกิดการระบาดใหญ่
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชากล่าวว่า กรณีของพ่อเด็กหญิงชาวกัมพูชาอยู่ระหว่างการสอบสวน และยังไม่ทราบว่าเขาติดเชื้อได้อย่างไร โดยพ่อของเด็กถูกกักตัวไว้ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอเพื่อเฝ้าระวังและรักษา
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงได้เข้าเก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสติดต่อโดยตรงกับเด็ก 12 คนในหมู่บ้าน และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่ามีแค่พ่อของเด็กเท่านั้นที่ติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแสดงความวิตกกังวลถึงสถานการณ์ไข้หวัดนกที่แพร่กระจายทั่วโลกในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา แต่มองว่าความเสี่ยงต่อมนุษย์ยังอยู่ในระดับต่ำ
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก กัมพูชาพบผู้ป่วยไข้หวัดนกในคนรวม 56 ราย ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปี 2557 และในจำนวนนั้นเสียชีวิต 37 ราย ในขณะที่ทั่วโลกมีรายงานพบการติดเชื้อในคน 870 ราย และเสียชีวิต 457 ราย ใน 21 ประเทศ โดยอัตราการเสียชีวิตโดยรวมอยู่ที่ 53% และในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อประมาณ 170 ราย และเสียชีวิต 50 ราย โดยกรณีส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อได้รับเชื้อโดยตรงจากนกที่ติดเชื้อ
“ระหว่างปี 2548 ถึงปี 2563 สัตว์ปีก 246 ล้านตัวถูกกำจัดหรือตายเพราะไข้หวัดนก” องค์การสุขภาพสัตว์โลกระบุ
“ตั้งแต่เดือน ต.ค.2564 มีรายงานการแพร่ระบาดจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในหลายภูมิภาคของโลก รวมถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ใหม่ๆ และก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์” หน่วยงานระบุ
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ ยอมรับว่าการระบาดของ H5N1 ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นปัญหาสุขภาพสัตว์
“แต่อย่างไรก็ตาม ผู้คนควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงและใกล้ชิดกับนกป่า สัตว์ปีก และสัตว์ป่าที่ป่วยหรือตาย ผู้คนไม่ควรบริโภคสัตว์ปีกหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกที่ยังดิบๆ หรือยังไม่สุก รวมถึงไข่ดิบ การบริโภคสัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีก และไข่ที่ผ่านการปรุงให้สุกอย่างเหมาะสมนั้นปลอดภัย” คำเตือนบนเว็บไซต์ของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบุ.
