รอยเตอร์ - บริษัทเชฟรอน คอร์ป (Chevron) ยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันของสหรัฐฯ เผยว่าบริษัทได้ตกลงขายทรัพย์สินในพม่าให้บริษัท MTI ของแคนาดา ในข้อตกลงที่จะทำให้บริษัทสามารถออกจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น 1 ปีหลังเชฟรอนและบริษัทน้ำมันอื่นๆ ตัดสินใจที่จะออกจากพม่าหลังเกิดการรัฐประหารในปี 2564 และเชฟรอนได้ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพม่า
กระทรวงการสื่อสารของพม่าไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของรอยเตอร์ในเรื่องนี้
บริษัทของสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันศุกร์ (10) ว่าบริษัทได้ตกลงที่จะขายหุ้น 41.1% ในโครงการยาดานาให้บริษัทในเครือของ MTI โดยโครงการยาดานาเป็นโครงการที่ผลิตก๊าซธรรมชาติสำหรับการใช้งานภายในประเทศ และส่งออกให้ไทย
การขายทรัพย์สินของเชฟรอนมีขึ้นหลังจากบริษัทดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจนานนับปีเพื่อลดรายได้จากการขาย ซึ่งท้ายที่สุดจะตกอยู่ในมือของรัฐบาลทหาร ขณะที่บริษัท MOGE ที่เป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลพม่าก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการร่วมทุนดังกล่าว
ก่อนขายหุ้นในโครงการยาดานา เชฟรอนได้เพิ่มการมีส่วนร่วมในโครงการเป็นการชั่วคราวจาก 28% เป็น 41% ซึ่งมาจากส่วนของบริษัทโททาล เอนเนอร์ยีส์
โททาล เอนเนอร์ยีส์ บริษัทน้ำมันของฝรั่งเศส ได้ขายทรัพย์สินของบริษัทและออกจากพม่าไปตั้งแต่เดือน ก.ค.2565
กลยุทธ์ดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเข้าควบคุมโครงการร่วมทุนนี้มากขึ้น และลดสิ่งที่ MOGE อาจได้รับจากการทำธุรกรรม หรือจากทรัพย์สินในอนาคต
รัฐบาลทหารเข้ายึดอำาจในปี 2564 โดยกล่าวหาว่ามีการโกงอย่างกว้างขวางในการเลือกตั้งทั่วไปที่พรรคการเมืองของอองซานซูจีเป็นฝ่ายคว้าชัย.