เอเอฟพี - รัฐบาลทหารพม่าประกาศใช้มาตรการใหม่สุดเข้มงวดในพื้นที่ที่เป็นฐานที่มั่นของฝ่ายต่อต้าน ซึ่งบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏและเผยแพร่ข่าวเท็จจะถูกพิจารณาคดีที่ศาลทหาร สื่อของรัฐรายงานวันนี้ (3)
ใน 37 เมืองที่บังคับใช้มาตรการใหม่นี้จะไม่อนุญาตให้มีการอุทธรณ์คำตัดสินที่ศาลทหารได้ตัดสินไปแล้ว ยกเว้นโทษประหารชีวิต ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ ของรัฐรายงาน
พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2564 ที่ขับไล่รัฐบาลของอองซานซูจี และการปราบปรามผู้เห็นต่างที่เกิดขึ้นตามมาได้ก่อให้เกิดการต่อสู้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ประกาศล่าสุดนับเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลทหารกำลังมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการปราบปรามการต่อต้านในพื้นที่ที่กองกำลังต่อต้านรัฐประหารยังเคลื่อนไหว
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์รายงานว่า การขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมีขึ้นเพื่อรับรองความปลอดภัย หลักนิติธรรม และความสงบสุขในท้องถิ่น
ภายใต้มาตรการใหม่ ศาลทหารจะพิจารณาคดีอาญาตั้งแต่ข้อหาก่อกบฏ ไปจนถึงการห้ามการเผยแพร่ข่าวเท็จ ข้อหาที่กองทัพใช้จำคุกนักข่าวหลายสิบคน
37 เมืองที่อยู่ภายใต้มาตรการใหม่ กระจายอยู่ใน 8 รัฐและภูมิภาค ที่ประกอบด้วย สะกาย ชิน มะเกว พะโค มอญ กะเหรี่ยง ตะนาวศรี และกะยา
กองกำลังฝ่ายรัฐบาลทหารปะทะกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชนต่อต้านการรัฐประหารในพื้นที่เหล่านั้นอยู่เป็นประจำ รวมถึงกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังสื่อของทางการประกาศขยายสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน ที่คาดว่าจะทำให้การเลือกตั้งที่รัฐบาลทหารให้คำมั่นว่าจะจัดขึ้นในเดือน ส.ค. ถูกเลื่อนออกไป
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ยอมรับว่ามากกว่า 1 ใน 3 ของเมืองทั้งหมดในประเทศไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของทหารอย่างเต็มที่ ในความเห็นที่สื่อของรัฐรายงานเมื่อวันพุธ (1)
ประชาชนมากกว่า 2,900 คน เสียชีวิตในการปราบปรามผู้เห็นต่างของกองทัพ และมีผู้ถูกจับกุมตัวมากกว่า 17,000 คน ตามการระบุของกลุ่มสังเกตการณ์ท้องถิ่น.