MGR ออนไลน์ - เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคนในปี 2566 จะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับเวียดนาม ตามการระบุของผู้เชี่ยวชาญ ที่กล่าวว่าเวียดนามควรรีบขจัดอุปสรรคด้านวีซ่า และแสวงหาแหล่งนักท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
“เวียดนามจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการท่องเที่ยวในปี 2566 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคน เนื่องจากในขณะนี้เวียดนามยังตามหลังเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่มาก เช่น ไทยในการฟื้นการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ” ฝ่าม ฮา ซีอีโอของบริษัท Lux Group ที่เชี่ยวชาญในด้านการจัดทัวร์ล่องเรือหรู กล่าว
ฝ่าม ฮา กล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจำเป็นต้องมีนโยบายวีซ่าที่เปิดกว้าง ที่เสนอวีซ่าแบบที่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้หลายครั้งสำหรับ 65 ประเทศ อย่างเช่นที่ไทยทำ และจำเป็นต้องเพิ่มรายชื่อประเทศที่มีสิทธิออกวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถขอวีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ (Visa on Arrival)
นอกจากการกำหนดนโยบายวีซ่าที่เป็นมิตรแล้ว ฝ่าม ฮา กล่าวว่า เวียดนามควรประกาศการสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 เพื่อบอกนักท่องเที่ยวต่างชาติว่าเวียดนามเป็นปลายทางท่องเที่ยวที่ปลอดภัย และยกเลิกข้อกำหนดเรื่องประกันโควิดสำหรับชาวต่างชาติ การขาดนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่แข่งขันได้ และการพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียมากเกินไปทำให้การท่องเที่ยวของเวียดนามล้าหลัง
ฝ่าม ฮา กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวควรแสวงหาตลาดการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีการเชื่อมต่อทางอากาศที่ดี เช่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และแคนาดา และนอกจากตลาดดั้งเดิมเช่นยุโรปตะวันตกแล้ว ยังจำเป็นต้องให้ความสนใจกับนักท่องเที่ยวจากยุโรปตะวันออกด้วย
เหวียน เจิ่ว อา ซีอีโอของบริษัท Oxalis Adventure ที่จัดทัวร์พาผู้คนไปชมถ้ำใน จ.กว๋างบิ่ง กล่าวว่า ก่อนเกิดโรคระบาด มีนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ และยุโรปเดินทางมาเยือนเวียดนาม 6 ล้านคนในปี 2562 ดังนั้นตลาดเหล่านี้มีความสำคัญมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ซีอีโอของ Oxalis กล่าวว่า เวียดนามควรเพิ่มแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวและผ่อนปรนนโยบายวีซ่าเพื่อพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตลาดเหล่านี้
ชาวอเมริกันเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวใหญ่เป็นอันดับ 2 ที่จองทัวร์ชมถ้ำเซินด่อง ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกกับบริษัท Oxalis ในปี 2566 คือ 330 คน จากทั้งหมด 900 คน รองจากชาวเวียดนามที่จองไว้ 360 คน
เหวียน เจิ่ว อา กล่าวว่า เป้าหมาย 8 ล้านคนสำหรับปี 2566 จะเป็นความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตาม เป้าหมายดังกล่าวขึ้นอยู่กับนโยบายเปิดการท่องเที่ยวของจีนด้วยเช่นกัน
“เมื่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือที่ประกอบด้วยจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เวียดนามอาจมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนถึง 12 ล้านคนในปี 2566” เหวียน เจิ่ว อา กล่าวเสริม
ฮวิง ฟาน เฟือง ฮว่าง รองผู้อำนวยการบริษัท Vietravel ผู้ให้บริการทัวร์ท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ กล่าวว่า เป้าหมาย 8 ล้านคนในปี 2566 สามารถบรรลุได้ เมื่อจีนที่เป็นตลาดท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดของเวียดนามก่อนเกิดโรคระบาดกลับมาเปิดกิจกรรมการท่องเที่ยวอีกครั้ง
ก่อนการระบาดของโควิดในปลายปี 2562 มีชาวจีนเยือนเวียดนามเกือบ 5.8 ล้านคนในแต่ละปี
จีนเพิ่งคลายนโยบายการป้องกันการแพร่ระบาดและผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทาง ความเคลื่อนไหวที่สร้างความหวังต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงเวียดนาม
เฟือง ฮว่าง กล่าวว่า นักท่องเที่ยวอินเดียและตะวันออกกลางเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนสูง ดังนั้น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวควรให้ความสนใจกับแคมเปญส่งเสริมประชาสัมพันธ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวร่ำรวยจากตลาดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลุ่มแรกๆ ที่เปิดให้มีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 15 มี.ค.2565 หลังล็อกดาวน์เพราะการระบาดของโควิดนาน 2 ปี และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเวียดนามในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 70% จากเป้าหมาย 5 ล้านคน.