เชียงราย - จนท.ตม-ตำรวจเชียงแสนรวบคาด่านฯสามเหลี่ยมทองคำ..สามหนุ่มปากีฯ ถือพาสปอร์ตตีตราประทับปลอมจ่อข้ามน้ำโขงเที่ยวกาสิโนยักษ์ฝั่งลาว เผยเข้าไทยแล้ววีซ่าหมดอายุจ้างมิจฉาชีพสแตมป์ต่ออายุให้
เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน จ.เชียงราย และพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ควบคุมตัวชายชาวสัญชาติปากีสถานจำนวน 3 คน ดำเนินคดีในข้อหา "ใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้น" ตามประมวลกฎหมายอาญา และข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522"
หลังจากชุดสืบสวนปราบปรามร่วมกับงานตรวจบุคคลและพาหนะ ตม.เชียงแสน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ด่านพรมแดนสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว ติดกับแม่น้ำโขง เมื่อหัวค่ำวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบชายชาวปากีสถานทั้ง 3 คน อายุ 22 ปี 23 ปี และ 24 ปี (ตามลำดับ) เดินทางเข้าไปยื่นหนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ตให้กับเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่าจะเดินทางข้ามไปยังเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพาสปอร์ตพบว่ามีการใช้ตราประทับปลอมจึงได้ควบคุมตัวทั้ง 3 คนเอาไว้ สืบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ช่วงกลางปี ราวเดือน มิ.ย. 2565 กระทั่งครบ 3 เดือน วีซ่าหมดอายุ แต่ได้ไปว่าจ้างกลุ่มมิจฉาชีพให้ปลอมแปลงตราประทับเพื่อต่ออายุการอยู่ในประเทศไทยให้ จากนั้นจะไปท่องเที่ยวที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง จึงได้เดินทางไปยังสามเหลี่ยมทองคำเพื่อจะข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ไทยตรวจสอบพบได้เสียก่อนดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ตม.เชียงแสนเคยจับกุมหญิงชาวเมียนมาและเวียดนามรวม 3 คน มีพฤติกรรมเหมือนกันคือใช้ตราประทับปลอมในพาสปอร์ตเพื่อจะใช้อยู่ในประเทศไทยและเดินทางเข้าออกประเทศ โดยครั้งนั้นทั้ง 3 คนจะเดินทางไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำเหมือนกัน จึงได้ว่าจ้างขบวนการมิจฉาชีพให้ใช้ตราประทับปลอมโดยเสียค่าจ้างรายละ 25,000-60,000 บาทมาแล้ว