MGR Online - ผลแข่งขัน “ตีคลี” เสี่ยงทายดวงเมืองลาวในวันสุดท้ายของเทศกาลบุญพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ปี 2565 ทีมพลเมืองชนะรัฐบาล บ่งบอกบ้านเมืองจะสงบ เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง มีข้าวเต็มนา ปลาเต็มหนอง ประชาชนกินดีอยู่ดี
วานนี้ (8 พ.ย.) ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 และเป็นวันสุดท้ายของงานบุญนมัสการพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งจัดมาตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน ตามประเพณีที่ปฏิบัติกันมาแต่โบราณของลาว ต้องมีการแข่งขันตีคลีเพื่อเสี่ยงทายดวงเมืองลาว ในช่วงเวลา 1 ปี ที่กำลังจะมาถึง
โดยนักกีฬาตีคลีที่มาร่วมแข่งขันกันแบ่งเป็น 2 ทีม ได้แก่ ทีมของขุนนางฝ่ายปกครอง ซึ่งปัจจุบันคือทีมรัฐบาล อีกทีมหนึ่งเป็นทีมพลเมือง หรือทีมของประชาชน แต่ละทีมมีผู้เล่นจำนวน 20-30 คน
การทำนายสถานการณ์บ้านเมืองจากผลการแข่งขันตีคลีตามความเชื่อแต่ดั้งเดิมของคนลาว หากปีใดที่ทีมฝ่ายปกครองได้รับชัยชนะ ปีนั้นประชาชนต้องประสบกับความทุกข์ยาก เพราะถูกเหล่าขุนนางบังคับข่มเหง แต่หากปีใดทีมพลเมืองเป็นฝ่ายชนะ ปีนั้นประชาชนจะอยู่ดีกินดี
สำหรับผลการแข่งขันตีคลีประจำปี 2565 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อว่านี้ ทีมประชาชนเป็นฝ่ายชนะทีมรัฐบาลไปด้วยสกอร์ 5 ต่อ 4
จากผลการแข่งขันดังกล่าว ผู้อาวุโสของลาวทำนายว่า สถานการณ์บ้านเมืองของลาวในอีก 1 ปีต่อจากนี้ “บ้านเมืองจะอยู่เย็นเป็นสุข ไม่อดข้าว ไม่อดปลา ข้าวเต็มนา ปลาเต็มหนอง เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง บ้านเมืองมีความสงบ ปลอดภัย การทำมาหากินมีแต่ความราบรื่น และบ้านเมืองจะมีแต่ความเจริญ รุ่งเรือง ศิวิไลซ์ ขึ้นไปเรื่อยๆ”
หลายปีแล้วที่ลาวได้จัดแข่งขันตีคลีระหว่างทีมรัฐบาลและทีมประชาชนต่อเนื่องมาทุกปี ในวันสุดท้ายของเทศกาลบุญนมัสการพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ยกเว้นปี 2564 ที่เกิดการระบาดของโควิด-19
ผลการแข่งขันล่าสุดก่อนหน้านี้ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ทีมประชาชนชนะทีมรัฐบาลด้วยสกอร์ 5 ต่อ 4 เช่นกัน โดยจากผลในปีนั้นมีการทำนายว่า “บ้านเมืองลาวจะพบแต่ความสงบสุข ร่มเย็น ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ ประชาชนจะไม่ถูกเจ้าหน้ารัฐข่มเหง จึงมีเวลาออกไปทำมาหากิน ทำให้ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย”
อย่างไรก็ตาม ผลจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ลาวต้องปิดประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจลาว เพราะแหล่งรายได้หลักที่เป็นเงินตราต่างประเทศของลาว ส่วนหนึ่งมาจากภาคการท่องเที่ยว ทำให้ตลอดปี 2564 ที่ได้งดจัดตีคลีไป 1 ปี ลาวต้องเผชิญกับวิกฤตค่าเงินกีบอ่อนค่าลงมาอย่างต่อเนื่อง
หลังเกิดสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น วิกฤตการเงินในลาวยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ค่าเงินกีบตกรูด ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงสร้างสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันทุกเดือน และสูงจนขึ้นถึงตัวเลข 2 หลัก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 ทำให้ประชาชนประสบปัญหาค่าครองชีพสูงแต่รายได้ลดลง
ล่าสุด อัตราเงินเฟ้อของลาวประจำเดือนตุลาคม 2565 ที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน สูงถึง 36.7%.