รอยเตอร์ - รัฐบาลทหารพม่าต้องรับผิดชอบต่อการขาดความคืบหน้าในแผนสันติภาพที่ได้ตกลงไว้กับอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซียกล่าว โดยเสริมว่า กลุ่มภูมิภาคได้ดำเนินการในส่วนของกลุ่มในความพยายามที่จะยุติการต่อสู้ในประเทศ
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรียกร้องให้พม่าดำเนินการตามแผนสันติภาพที่เห็นพ้องกันเมื่อปีก่อนที่จะยุติความรุนแรงที่ทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่กองทัพโค่นล้มรัฐาลที่มาจากการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.2564
แผนดังกล่าวที่ได้ตกลงกันไว้เมื่อประมาณ 18 เดือนก่อน ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมในการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ และการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและผู้แทนพิเศษของอาเซียน
เร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซีย ที่มีกำหนดดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มภูมิภาคในปีหน้า กล่าวกับรอยเตอร์ว่าการกล่าวโทษต่อการขาดความคืบหน้าอยู่ที่รัฐบาลทหาร
“การวิพากษ์วิจารณ์ไม่ควรมุ่งเป้ามาที่อาเซียน พวกเขาควรมุ่งเป้าไปที่รัฐบาลทหาร ถ้าจะพูดว่าใครควรรับผิดชอบ ใครล้มเหลว นั่นไม่ใช่เรา ไม่ใช่อาเซียน เราทำในส่วนของเราแล้ว” เร็ตโน มาร์ซูดี กล่าวให้สัมภาษณ์
รัฐบาลทหารพม่าไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็น แต่ก่อนหน้านี้ได้กล่าวโทษการขาดความคืบหน้ากับความไม่มั่นคงในประเทศและโรคระบาด
เร็ตโน ยังกล่าวว่า ประเทศต่างๆ ในอาเซียนกำลังเสนอคำแนะนำชุดใหม่สำหรับการดำเนินการตามแผนสันติภาพก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในสัปดาห์หน้า
“เราอำนวยความสะดวกในการเจรจาระดับชาติที่จะนำพม่าออกจากวิกฤตทางการเมือง และเรารู้ว่าใครสามารถแก้ไขปัญหาของพม่าได้ นั่นคือชาวพม่า ไม่ใช่บุคคลภายนอก”
อาเซียนมีนโยบายไม่แทรกแซงกิจการอธิปไตยของประเทศสมาชิกมาอย่างยาวนาน แต่เผชิญกับการเรียกร้องจากนักเคลื่อนไหวให้เพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลทหาร
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มกล่าวว่ายังมุ่งมั่นต่อฉันทมติสันติภาพ 5 ข้อ แม้ว่าความไม่พอใจในหมู่สมาชิกจะเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความรุนแรงที่ทวีความรุนแรงขึ้นในพม่า ที่รวมถึงการโจมตีทางอากาศในงานคอนเสิร์ตและการประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย
ในการตอบสนองต่อการประชุมสัปดาห์ก่อนของอาเซียน โฆษกรัฐบาลทหารได้กล่าวโทษขบวนการต่อต้านติดอาวุธสำหรับความรุนแรงที่เกิดขึ้น และยังกล่าวว่าแรงกดดันในการกำหนดกรอบเวลาจะสร้างผลกระทบในแง่ลบมากกว่าแง่บวก.