เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์พม่าโจมตีเมืองสำคัญใกล้ชายแดนไทยในวันศุกร์ (21) ตามการเปิดเผยของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่และสื่อท้องถิ่น โดยรัฐบาลทหารได้สั่งการโจมตีทางอากาศ
สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เป็นแกนนำต่อต้านการรัฐประหารของนายพลที่เข้าครองอำนาจเมื่อปีก่อน และได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้เห็นต่างทำงานเพื่อขับไล่รัฐบาลทหาร
กองกำลังของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงปะทะกับกองทัพอยู่เป็นระยะๆ ตามแนวชายแดนไทย ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพหลบหนีข้ามแดนเพื่อความปลอดภัย
การต่อสู้ในวันศุกร์ (21) เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 7.00 น. ที่เมืองกอกะเรก ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่มุ่งสู่ด่านชายแดนสำคัญกับไทย ชาวบ้านที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าวกับเอเอฟพี
พวกเขากล่าวว่า การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่ต่อและดูเหมือนกลุ่มติดอาวุธพยายามที่จะโจมตีสำนักงานรัฐ
“เราได้ยินเสียงยิงอาวุธหนัก” ชาวบ้านกล่าว และเสริมว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 3 คน และมีอย่างน้อย 15 คน ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล
โฆษกของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกล่าวว่ากองกำลังฝ่ายตนกำลังต่อสู้กับทหารของฝ่ายรัฐบาลตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง
กองทัพสั่งการโจมตีทางอากาศหลายครั้งเพื่อสนับสนุนกองกำลังภาคพื้น โฆษก KNU ระบุ และว่าทั้งสองฝ่ายมีผู้บาดเจ็บ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
“เรากำลังซ่อนตัวอยู่ชั้นใต้ดิน ผมเห็นพ่อค้าเสียชีวิตจากระเบิดต่อหน้าต่อตา” ชาวเมืองกอกะเรก กล่าวกับเอเอฟพี และว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรายอื่นๆ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ชาวบ้านในเมืองใกล้เคียงกล่าวกับเอเอฟพีว่าพวกเขาได้ยินเสียงยิงปืนใหญ่หลายครั้ง
“เครื่องบินขับไล่ราว 4 ลำ บินผ่านหลายครั้ง บางคนออกจากเมืองเพื่อความปลอดภัย” พวกเขากล่าว
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กองกำลังของ KNU ปะทะกับกองกำลังของรัฐบาลทหารในหลายพื้นที่รอบเมือง และอาคารหลายแห่งได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่
ทีมข้อมูลของรัฐบาลทหารไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็น
พม่ามีกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์มากกว่า 20 กลุ่ม โดยหลายกลุ่มครองดินแดนในบริเวณชายแดนประเทศ
หลังการรัฐประหารที่ขับไล่รัฐบาลพลเรือนของอองซานซูจีในเดือน ก.พ.2564 กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) หลายสิบกลุ่มก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลทหาร และสมาชิกของกองกำลังพิทักษ์ประชาชนได้ดำเนินการควบคู่ไปกับกองกำลังของ KNU.