xs
xsm
sm
md
lg

"คะฉิ่น" รบกันหนักหลายพื้นที่ ชาวบ้านถ้าไม่หนีก็ต้องขุดหลุมหลบภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 ชาวบ้านผากั้น ช่วยกันขุดหลุมหลบภัยเพราะเกรงจะถูกเครื่องบินพม่าทิ้งระเบิดใส่
MGR Online - หลายพื้นที่ในรัฐคะฉิ่นรบกันหนักหน่วง ทหารพม่าใช้ทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด ระดมยิงปืนใหญ่ใส่ที่มั่นกองกำลังผสม KIA/PDF แต่ชาวบ้านรับเคราะห์ บ้านหลายหลังในผากั้นต้องขุดหลุมหลบภัย เพราะกลัวถูกลูกหลงเหมือนเหตุระเบิดงานคอนเสิร์ตเมื่อปลายเดือนก่อน ส่วนที่เมืองหมอก ชาวบ้านอย่างน้อย 2 ราย ถูกกระสุนปืนใหญ่เสียชีวิต และอีกนับพันต้องทิ้งบ้านไปลี้ภัยอยู่ในวัด

วานนี้ (1 พ.ย.) สำนักข่าว Eternally Peace News Network รายงานว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ในอำเภอผากั้น จังหวัดโมญิน รัฐคะฉิ่น ชาวบ้านต่างช่วยกันขุดหลุมหลบภัยไว้ใกล้กับตัวบ้าน เนื่องจากหวั่นเกรงจะถูกลูกหลงที่กองทัพอากาศพม่าอาจนำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดใส่ที่ตั้งทางทหารของกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ที่กำลังปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้าน (PDF) ที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลเงาของพรรค NLD


ทั้งนี้ ชาวบ้านผากั้นส่วนใหญ่ล้วนวิตกกังวล หลังเกิดเหตุเคริ่องบินรบพม่า 3 ลำ บินมาทิ้งระเบิดลงกลางงานเฉลิมฉลองวันครบรอบ 62 ปี การก่อตั้งองค์กรและกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIO/KIA) ที่บ้านอะนางปา ตำบลโลงคิน ซึ่งเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของกองพลที่ 9 KIA เมื่อคืนวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 ราย และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน ในนี้มีทั้งทหาร KIA เจ้าหน้าที่ KIO ชาวบ้าน รวมถึงนักดนตรีที่มาแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมฉลอง

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทหารพม่าได้เสริมกำลังและเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา รวมถึงปิดกั้นการเดินทางในหลายจุดทั่วตัวเมืองผากั้น ทำให้ชาวบ้านต่างได้รับความยากลำบาก ประสบกับภาวะขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง และของใช้จำเป็นประจำวัน เนื่องจากในหลายพื้นที่รถขนส่งสินค้าไม่สามารถเดินทางเข้าไปถึง

นอกจากอำเภอผากั้นแล้ว ในอีกหลายพื้นที่ของรัฐคะฉิ่น ก็กำลังมีการสู้รับกันอย่างหนักระหว่างทหารกองทัพพม่า และกองกำลังผสมของ KIA กับ PDF โดยมีการใช้ทั้งเครื่องบินรบทิ้งระเบิด และการโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ชาวบ้านเมืองหมอกนับพันคนต้องทิ้งบ้านเรือน ไปหลบภัยจากการสู้รบอยู่ที่วัดในตัวเมือง เพราะกลัวถูกลูกหลง
สำนักข่าว Kachin News Group รายงานว่า ช่วงเช้ามืดของวันที่ 30 ตุลาคม เครื่องบินรบพม่า 2 ลำ ได้บินไปทิ้งระเบิดลงในพื้นที่เมืองหล่ายจ่า ซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของ KIA บริเวณชายแดนพม่า-จีน ที่อยู่ลงมาทางทิศใต้ของมิตจีน่า เมืองหลวงของรัฐคะฉิ่น จากนั้นได้ใช้อาวุธหนักระดมโจมตีใส่ในอีกหลายจุดของเมืองหล่ายจ่า

ช่วงเย็นวันเดียวกัน (30 ต.ค.) ฝ่ายต่อต้านได้วางระเบิดสำนักว่าการเมืองมิตจีน่า แรงระเบิดสร้างความเสียหายแก่ตัวอาคาร และมีชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุถูกแรงระเบิดเสียชีวิตไป 1 ราย

อีกพื้นที่หนึ่งซึ่งกำลังมีการสู้รบกันอย่างรุนแรง ระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังผสม KIA และ PDF ได้แก่ อำเภอเมืองหมอก จังหวัดบะมอ ที่อยู่ลงมาทางใต้ของมิตจีน่า ก่อนเข้าเขตรัฐชาน โดยหลายหมู่บ้านบริเวณรอบนอกตัวเมืองหมอกมีการสู้รบต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม และได้เพิ่มความหนักหน่วงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว

ทหารพม่าได้ใช้อาวุธหนักระดมยิงเข้าใส่ที่ตั้งของกองกำลังร่วม KIA/PDF และมีกระสุนปืนใหญ่หลายลูกไปตกใส่บ้านเรือนของชาวบ้าน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก


สำนักข่าว Shan News รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ทหารพม่าได้ใช้ปืนใหญ่โจมตีกองกำลังร่วม KIA/PDF แต่กระสุนลูกหนึ่งได้ไปตกลงยังไร่ถั่วดินของชาวบ้าน ทำให้ผู้หญิงชาวไทใหญ่ 2 คนที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตถั่วดินอยู่ถูกแรงระเบิดเสียชีวิตคาที่ ต่อมา ระหว่างวันที่ 28-29 ตุลาคม มีชาวบ้านปุ่งใต้ 2 คน กับชาวบ้านเมืองหมอกอีก 2 คน ถูกกระสุนปืนใหญ่ระเบิดใส่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดเป็นหญิง ในนี้มีคนแก่ 1 คน และเด็กหญิงอายุ 13 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม 7 อีก 1 คน ทั้ง 4 ถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลประจำอำเภอเมืองหมอก

Shan News ยังรายงานอีกว่า จนถึงขณะนี้ ชาวบ้านเมืองหมอกมากกว่า 1,000 คน ได้พากันทิ้งบ้านเรือน ไร่นา อพยพเข้าไปอาศัยอยู่ในวัดหลายแห่งในตัวเมืองหมอก เพราะกลัวจะถูกลูกหลงจากการสู้รบได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

KIA เป็นกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่แสดงออกชัดเจนในการต่อต้านสภาบริหารแห่งรัฐ และกองทัพพม่า โดยได้เปิดฉากสู้รบกับทหารพม่าในหลายพื้นที่ของรัฐคะฉิ่น รัฐชาน และภาคสะกาย และยังเป็นกองกำลังที่สนับสนุนรัฐบาลเงาของพรรค NLD รวมถึงช่วยฝึกการใช้อาวุธและการสู้รบให้กองกำลัง PDF หลายกลุ่มที่รัฐบาลเงาจัดตั้งขึ้น.

ส่วนหนึ่งของบ้านในเมืองหมอกที่ถูกลูกหลงจากกระสุนปืนใหญ่



พื้นที่ต่างๆ ในรัฐคะฉิ่น ที่กำลังมีการรบกันอย่างหนักหน่วง


กำลังโหลดความคิดเห็น