MGR Online - โรงเรียนและหน่วยงานในสังกัดองค์กรเอกราชคะฉิ่นต่างพากันลดธงครึ่งเสา ไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุเครื่องบินรบพม่าทิ้งระเบิดลงมากลางงานแสดงดนตรีที่เมืองผากั้นเมื่อคืนวันที่ 23 ตุลาคม ตัวเลขล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 80 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 คน
ตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) หน่วยงานและโรงเรียนทุกแห่งในสังกัดองค์กรเอกราชคะฉิ่น (KIO) ต่างพากันลดธงลงครึ่งเสา เพื่อไว้อาลัยเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ที่หมู่บ้านนางปา ตำบลโลงคิน อำเภอผากั้น จังหวัดโมญิน รัฐคะฉิ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของกองพลที่ 9 กองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA)
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่กำลังมีการแสดงดนตรีในพื้นที่เหมืองหยกแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านนางปา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันครบรอบ 62 ปี การก่อตั้งองค์กรและกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIO/KIA) ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 25 ตุลาคม โดยมีการเชิญนักร้อง นักดนตรีชื่อดัง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวคะฉิ่นมาแสดงความบันเทิง มีผู้คนไปร่วมชมดนตรีครั้งนี้หลายร้อยคน
โดยขณะที่ผู้คนกำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น ในเวลาประมาณ 20.00 น.เครื่องบินรบของกองทัพอากาศพม่า 3 ลำ ได้บินมาทิ้งระเบิดลงยังพื้นที่จัดงาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
Kachin News Group ได้รายงานความคืบหน้าล่าสุดระบุว่า ได้พบร่างผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 80 ราย โดยพบในคืนวันเกิดเหตุ (23 ต.ค.) 58 ราย และพบในวันรุ่งขึ้นอีกมากกว่า 20 ราย ส่วนจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ขณะนี้มีมากกว่า 100 คน โดยเจ้าหน้าที่ของ KIO ร่วมกับมูลนิธิการกุศล และองค์กรการกุศลของคริสตจักรในรัฐคะฉิ่น ได้ช่วยกันลำเลียงส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลประจำอำเภอผากั้น และโรงพยาบาลในเมืองมิตจีน่า ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐคะฉิ่น
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดอุปสรรคขึ้นในการส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล เมื่อทหารพม่าได้เสริมกำลังลงมาตั้งด่าน และสั่งห้ามผู้คนเดินทางผ่านจุดตรวจที่สะพานกินซี ที่อยู่บนเส้นทางคมนาคมระหว่างเมืองผากั้นกับเมืองมิตจีน่า ทำให้รถขนส่งผู้บาดเจ็บจำนวนมากไม่สามารถใช้เส้นทางนี้ได้
หลังเกิดเหตุระเบิด องค์กรระหว่างประเทศ องค์กรการเมือง และภาคประชาสังคมในพม่า ตลอดจนกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ และประณามการกระทำของกองทัพพม่า ที่ได้คร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปเป็นจำนวนมาก.