เอเอฟพี - พระสงฆ์หลายร้อยรูปต้องอพยพหลบหนีออกจาก 2 เมืองในพม่า ตามการเปิดเผยของผู้เห็นเหตุการณ์วันนี้ (16) ส่วนหนึ่งของผู้คนหลายพันชีวิตที่ต้องพลัดถิ่นจากการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างกองทัพและกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านการรัฐประหารเมื่อปีก่อน
การยึดอำนาจของทหารเมื่อ 11 เดือนก่อน ได้ขับไล่รัฐบาลของอองซานซูจี ผู้นำพลเรือน และนำมาซึ่งการประท้วงของประชาชนจำนวนมาก ที่เผชิญกับการปราบปรามที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน ขณะที่กลุ่มติดอาวุธหลายสิบกลุ่มถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหาร
เมืองลอยก่อ (Loikaw) ในรัฐกะยา ทางตะวันออกของประเทศ เกิดการต่อสู้รุนแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และสหประชาชาติประเมินว่ามีประชาชนอพยพหลบหนีเกือบ 90,000 คน ขณะที่เอ็นจีโอท้องถิ่นได้ระบุตัวเลขไว้สูงกว่ามากที่ 170,000 คน
“ประชาชนมากกว่าครึ่งของเมืองลอยก่อต้องพลัดถิ่นภายในประเทศ” สหประชาชาติระบุ และแม้กระทั่งพระสงฆ์ในเมืองก็ต้องอพยพหลบหนีการต่อสู้
“เป็นไปไม่ได้เลยที่อาตมาจะอยู่ที่นั่น เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจออกมา แต่เราจำเป็นต้องทำ” พระสงฆ์รูปหนึ่งกล่าว และเสริมว่า พระจากวัดวาอารามราว 30 แห่งกำลังหลบหนี นับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในประเทศที่ให้ความเคารพนับถือและมองว่าวัดเป็นสถานที่ปลอดภัย
พระสงฆ์รูปนี้ ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มคนราว 5,000 คน ที่อพยพหลบหนีไปยังรัฐชาน กล่าวว่า วัด 12 แห่งในเมืองเดโมโซที่อยู่ใกล้กันก็ว่างเปล่าเช่นกัน
ตำรวจนายหนึ่งกล่าวว่า ที่เมืองลอยก่อ กลุ่มติดอาวุธได้เข้ายึดโบสถ์และบ้านเรือน และโจมตีเรือนจำแห่งหนึ่งด้วย
“เมืองร้างเหมือนสุสาน สถานการณ์ในเมืองเลวร้ายมาก” ตำรวจกล่าว และว่า มียานพาหนะราว 600 คัน ออกจากเมืองเกือบทุกวัน
ทั้งเมืองเดโมโซ และเมืองลอยก่อเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งสหประชาชาติระบุว่าการต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้นในรัฐกะยา และรัฐกะเหรี่ยงตั้งแต่เดือน ธ.ค.เป็นต้นมา.