MGR Online - 14 ต.ค. รถไฟลาว-จีนขบวนแรกกำหนดข้ามชายแดนบ่อหานมาถึงบ่อเต็น จากนั้นวิ่งทดสอบระบบและโชว์ประชาชนตามรายทาง 2 วัน ถึงเวียงจันทน์เย็นวันศุกร์ที่ 15 ต.ค. รัฐบาลใช้จุดเด่นประเทศลาวตั้งเป็นชื่อรถขนส่งผู้โดยสาร 2 ขบวนว่า “ล้านช้าง” และ “แคนลาว” และใช้สีธงชาติเป็นสีของขบวนรถ
เย็นวันที่ 13 ตุลาคม เพจทางการของบริษัทรถไฟลาวจีน เปิดเผยข้อมูลว่า ในตอนเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม รถไฟขบวน “ล้านช้าง” ซึ่งเป็นรถไฟขนส่งผู้โดยสารขบวนแรกของบริษัทจะวิ่งข้ามชายแดนจากฝั่งบ่อหาน สิบสองปันนา มณฑลยูนนานของจีน มายังสถานนีบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ในฝั่งลาว
รถไฟขบวนนี้จะวิ่งตามเส้นทางรถไฟที่สร้างเสร็จแล้วเพื่อทดสอบระบบ และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยู่ 2 ข้างทางได้ถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอไว้เป็นที่ระลึก หรือเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ โดยขบวนรถไฟจะจอดพักค้างที่สถานีหลวงพระบางเวลาเป็นเวลา 1 คืน จากนั้นจะออกจากสถานีหลวงพระบาง เดินทางต่อลงมาถึงสถานีนครหลวงเวียงจันทน์เพื่อส่งมอบในตอนเย็นของวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม
ขบวนรถไฟลาว-จีน มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 2 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันชาติครบรอบ 46 ปี การสถาปนา สปป.ลาว
เดือนเมษายนปีที่แล้ว บริษัททางรถไฟลาวจีนได้สั่งซื้อรถไฟความเร็วปานกลาง Fuxing EMU รุ่น CR200J จาก China Railway Corp จำนวน 2 ขบวน มูลค่า 100 ล้านหยวน หรือ 127,000 ล้านกีบ หรือประมาณ 14.2 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม สำนักงานนายกรัฐมนตรี ลาว ได้มีหนังสือแจ้งการ เลขที่ 1292/หสนย. ระบุว่า นายกรัฐมนตรี พันคำ วิพาวัน ได้เห็นชอบการตั้งชื่อรถไฟขนส่งผู้โดยสาร 2 ขบวน ที่จะนำมาให้บริการในเส้นทางรถไฟลาว-จีน ตามจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของลาว โดยขบวนแรกใช้ชื่อขบวน “ล้านช้าง” และขบวนที่สองใช้ชื่อว่าขบวน “แคนลาว”
สำหรับสีของโบกี้รถไฟขนส่งผู้โดยสารมี 3 สี ยึดตามสีบนธงชาติลาว ได้แก่ สีแดง สีฟ้า และสีขาว โดยสีแดงหมายถึงเลือดเนื้อของนักรบปฏิวัติลาว สีฟ้าหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และสีขาวหมายถึงความสามัคคีของคนลาว ภายใต้การนำของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ซึ่งเป็นดั่งดวงเดือน
China Railway Corp ได้เปิดตัวรถไฟ Fuxing EMU รุ่น CR200J เมื่อเดือนมกราคม 2562 รถรุ่นนี้เป็นรถไฟความเร็วปานกลาง ทำความเร็วได้ตั้งแต่ 160-210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีตู้โดยสารกว้าง 3.10 เมตร สูง 4.43 เมตร CR200J 2 ขบวนที่บริษัทรถไฟลาวจีนสั่งซื้อ มีโบกี้โดยสารขบวนละ 7 โบกี้ มีที่นั่งรวม 720 ที่นั่ง แบ่งขายตั๋วเป็น 2 ชั้น ตั๋วสำหรับรถไฟชั้น 1 มี 56 ที่นั่ง ตั๋วชั้น 2 มี 662 ที่นั่ง และมีที่นั่งพิเศษสำหรับคนพิการอีก 2 ที่นั่ง
เดิมรถไฟทั้ง 2 ขบวนมีกำหนดต้องส่งมอบให้ลาวตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเกิดการระบาดของโควิด-19 มีการล็อกดาวน์หลายพื้นที่ในลาว กำหนดการส่งมอบจึงถูกเลื่อนมาเป็นวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม
ช่วงแรกหลังจากเปิดให้บริการในวันที่ 2 ธันวาคม เส้นทางรถไฟลาว-จีน จะเน้นที่การขนส่งสินค้ามากกว่าขนส่งผู้โดยสาร โดยนอกจากรถไฟ 2 ขบวนที่ใช้ขนส่งผู้โดยสารแล้ว ยังจะมีขบวนรถไฟขนส่งสินค้า ซึ่งใช้หัวรถจักรรุ่น HDX 3CA อีก 17 ขบวน ความเร็วสำหรับรถขนส่งสินค้า เฉลี่ย 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เส้นทางรถไฟลาว-จีน ยาว 422.4 กิโลเมตร มีสถานีทั้งสิ้น 32 แห่ง แบ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้า 22 แห่ง สถานีสำหรับรับส่งผู้โดยสาร 10 แห่ง ได้แก่ นครหลวงเวียงจันทน์ โพนโฮง วังเวียง กะซิ หลวงพระบาง งา ไซ นาหม้อ นาเตย และบ่อเต็น ในนี้เป็นสถานีหลัก 5 แห่ง คือนครหลวงเวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง นาเตย และบ่อเต็น
ในวันเดียวกัน (13 ต.ค.) เพจบริษัทรถไฟลาวจีน ยังได้เปิดเผยภาพภายในอุโมงค์ “มิตรภาพ” ซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟข้ามชายแดน 2 ประเทศ ยาว 9.68 กิโลเมตร ปากอุโมงค์อยู่ที่เมืองบ่อหานในฝั่งจีน ลอดทะลุภูเขามาออกยังเมืองบ่อเต็นในฝั่งลาว เส้นทางในอุโมงค์อยู่ทางฝั่งจีน 7.17 กิโลเมตร ฝั่งลาว 2.51 กิโลเมตร.