xs
xsm
sm
md
lg

จีนเตรียมสร้าง "พระพุทธรูปยืนยักษ์" กลางเวียงจันทน์ สูง 100 เมตร ประดิษฐาน ณ เขตบึงทาดหลวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายกิแก้ว ไขคำพิทูน (ที่ 3 จากขวา) พร้อมคณะกรรมการ พิจารณารูปแบบจำลองขององค์พระพุทธรูปที่จะก่อสร้าง
MGR Online - หวั่นเฟิง เซี่ยงไฮ้ จากจีน เตรียมลงมือสร้างพระพุทธรูปยืน ขนาดสูง 100 เมตร ในเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง ใจกลางเวียงจันทน์ หวังดึงพุทธศาสนิกชนเดินทางเข้าไปกราบไหว้ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแก่ สปป.ลาว

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเตรียมการก่อสร้างพระพุทธรูปยืน ขนาดความสูง 100 เมตร ขึ้นภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีนายกิแก้ว ไขคำพิทูน รองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เป็นประธาน

นายกิแก้ว กล่าวว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง เป็นโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ใจกลางนครหลวงเวียงจันทน์ ที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การก่อสร้างพระพุทธรูปขึ้นที่นี่ จะดึงดูดผู้คนเดินให้ทางเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้มากขึ้น จึงเป็นการช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของชนชาติลาว

คณะกรรมการโครงการก่อสร้างพระพุทธรูปใหญ่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง เป็นคณะกรรมการระดับชาติที่แต่งตั้งขึ้นตามข้อตกลงฉบับที่ 47/นย. ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 นอกจากมีนายกิแก้ว เป็นประธานแล้ว ยังมีพระหลักแก้ว มหาเหวด มะเสไน รองประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว รองรัฐมนตรีจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รองเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ หัวหน้าสำนักงานส่งเสริมและควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ หัวหน้าคณะกรรมการควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษนครหลวงเวียงจันทน์ และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นกรรมการ

 ที่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง นครหลวงเวียงจันทน์
การประชุมเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการชุดนี้ โดยที่ประชุมได้พิจารณาสถานที่และรูปแบบจำลองขององค์พระพุทธรูปที่จะก่อสร้าง รวมถึงแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย และมีมติร่วมกันว่าการก่อสร้าง จะเริ่มต้นในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ขึ้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง อยู่ในแผนการที่บริษัทหวั่นเฟิง เซี่ยงไฮ้ (Wan Feng Shanghai) เจ้าของสัมปทาน ได้เสนอไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (2563) โดยบริษัทได้ให้เหตุผลว่า พระพุทธรูปเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั้งในลาว ไทย พม่า กัมพูชา เวียดนาม และทั่วโลก ถ้าได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นภายในเขตบึงทาดหลวง จะดึงดูดให้ผู้คนจำนวนมากจากทุกสารทิศเดินทางเข้ามากราบไหว้ ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้เข้าประเทศลาวมากขึ้น

บึงทาดหลวงอยู่ในเขตเมืองไซเสดถา ฝั่งตะวันออกของตัวเมืองเวียงจันทน์ เป็นบ่อน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ กว้างกว่า 300 ไร่ ถูกใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำที่ระบายมาจากตัวเมืองในช่วงฤดูฝน และเป็นแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง

คณะกรรมการพิจารณาแผนผังรวม เขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2554 รัฐบาลลาว ได้ให้สัมปทานแก่บริษัทหวั่นเฟิง เซี่ยงไฮ้ พัฒนาพื้นที่ 1,000 เฮกเตอร์ (6,250 ไร่) รอบบึงทาดหลวง สร้างขึ้นเป็นเมืองใหม่ในชื่อ “เขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง” มีอายุสัมปทาน 99 ปี ใช้งบประมาณพัฒนารวม 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ต้นปี 2555 บริษัทหวั่นเฟิง เริ่มต้นพัฒนาโครงการระยะแรก บนพื้นที่ 365 เฮกเตอร์ (2,281.25 ไร่) ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมสูง 17 ชั้น 11 อาคาร ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม อาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล และโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบต่างๆ อีกหลายยูนิต พื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 8 ล้านตารางเมตร สามารถรองรับประชากรได้กว่า 3 แสนคน

เดือนกรกฎาคม 2561 มีการเปิดเผยความคืบหน้าว่า ได้สร้างคอนโดมิเนียมทั้ง 11 อาคารเสร็จสมบูรณ์ และเริ่มการขายไปได้แล้ว 4 อาคาร โดย 1 ใน 4 อาคาร ถูกเหมาจองโดยนักธุรกิจชาวจีนทั้งตึก

การประชุมเพื่อพิจารณาการก่อสร้างพระพุทธรูปขนาดความสูง 100 เมตร ในเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง
ปัจจุบัน โครงสร้างพื้นฐานหลายอย่างในพื้นที่ ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยเฉพาะถนนโดยรอบโครงการ ยาว 30 กิโลเมตร

เขตเศรษฐกิจพิเศษบึงทาดหลวง ยังเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการทางด่วนเวียงจันทน์ หมายเลข 1 ทางด่วนแห่งแรกที่สร้างขึ้นเพื่อลดปัญหาการจราจรภายในนครหลวงเวียงจันทน์ ยาว 15.30 กิโลเมตร วิ่งตรงไปถึงเขตดงหมากคาย เมืองไชทานี มูลค่าก่อสร้างรวม 200 ล้านดอลลาร์ อายุสัมปทาน 50 ปี ต่อได้อีก 20 ปี

บริษัทเอเซียลงทุน พัฒนา และก่อสร้าง ร่วมทุนกับบริษัท China North Industries Corporation ตั้งบริษัททางด่วนเวียงจันทน์หมายเลข 1 เพื่อเข้ารับสัมปทานสร้างทางด่วนสายนี้ โดยได้เซ็นสัญญากับองค์การปกครองนครหลวงเวียงจันทน์เมื่อเดือนเมษายน 2562 และมีพิธีวางศิลาฤกษ์เริ่มต้นการก่อสร้างเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 คาดว่าจะใช้เวลา 24 เดือน.


กำลังโหลดความคิดเห็น