MGR Online - ทั้งลาวและพม่าออกข่าววันเดียวกัน มีแผนผลิตวัคซีนปัองกันโควิด-19 ขึ้นใช้เองในประเทศ ที่ลาวตัวแทนบริษัทเทคโนโลยีจากเซี่ยงไฮ้ เดินทางมาหารือเรื่องนี้โดยเฉพาะกับรัฐมนตรีสาธารณสุข ส่วนที่พม่า โฆษกรัฐบาลชี้ได้แรงหนุนจากทั้งจีนและรัสเซีย คาดเริ่มผลิตได้ภายในปีนี้
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม Ding Yuefan ตัวแทนบริษัทผลิตยาหยวนซู ในฐานะตัวแทนบริษัท StemiRNA ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจีน ได้นำทีมงานเข้าพบกับ ดร.บุนแฝง พูมมะไลสิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว
ตามข่าวที่ถูกเปิดเผยโดยศูนย์ข่าวสารการแพทย์และสุขศึกษา (Centre of Information and Education for Health) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) ระบุเพียงว่าหัวข้อที่ทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน ได้แก่ การจัดตั้งหน่วยทดลองและผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในลาว เพื่อผลิตป้อนแก่ความต้องการของประชาชนในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ มากไปกว่านี้
StemiRNA ตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยชาวจีน ในชุมชนผลิตยาจางเจียง (Zhangjiang Drug Valley) นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อปี 2559 ทำหน้าที่ค้นคว้า วิจัย เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อนำมาพัฒนาและผลิตวัคซีน mRNA รายแรกของจีน และนับแต่ก่อตั้งขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน StemiRNA สามารถระดมเงินทุนสนับสนุนจากพาร์ตเนอร์ที่เป็นองค์กรธุรกิจ และบริษัทวิจัยในจีนประมาณ 6 ราย คิดเป็นเงินมากว่า 100 ล้านหยวน
ในพม่า สำนักข่าว The Irrawaddy มีรายงานเมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) โดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ พลจัตวา ซอ มิน ทุน โฆษกรัฐบาลทหาร ซึ่งบอกว่า จีนและรัสเซียจะให้ความช่วยเหลือแก่พม่าในการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขึ้นใช้เองในประเทศ โดยจะใช้โรงงานเภสัชกรรมของรัฐบาลเป็นสถานที่ผลิต และทั้งจีนกับรัสเซียจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ รวมถึงส่งวัตถุดิบมาสนับสนุน
พลจัตวา ซอ มิน ทุน บอกกับ The Irrawaddy ว่ารัฐบาลพม่ากำลังจะได้ใบอนุญาตผลิตวัคซีนสปุตนิก วี จากรัสเซีย แต่กับจีนนั้น ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ใบอนุญาตผลิตซิโนฟาร์มหรือซิโนแวค อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพยายามผลักดันจะให้การผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขึ้นใช้เองในประเทศ สามารถเริ่มต้นได้ภายในปีนี้
ปัจจุบัน พม่าได้รับความช่วยเหลือจากจีนที่ส่งวัคซีนซิโนฟาร์มมาให้ 2.5 ล้านโดส และรัฐบาลได้ซื้อวัคซีนซิโนแวคมาอีก 2 ล้านโดส เพื่อฉีดให้ประชาชนทั่วประเทศ
ส่วนในลาว วัคซีนที่ได้รับความช่วยเหลือมาส่วนใหญ่เป็นซิโนฟาร์มจากจีน 2,902,000 โดส รองลงมาเป็นวัคซีนที่ได้รับผ่านโครงการโคแว็กซ์ 3 ยี่ห้อ รวม 2,272,440 โดส ได้แก่ แอสตร้าเซนเนก้า 1,163,820 โดส จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 1,008,000 โดส และไฟเซอร์อีก 100,620 โดส นอกจากนี้ ยังมีสปุตนิก วี ที่ประเทศรัสเซียส่งมาให้ตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมอีก 5,000 โดส.