xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.ย้ำกระจาย “วัคซีนไฟเซอร์” ลงพื้นที่แล้ว 50-60% ของความต้องการ ยันจัดสรรเพิ่มแน่นอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค. ระบุ ทยอยจัดส่ง “วัคซีนไฟเซอร์” สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ฉีดบูสเตอร์โดส ช่วงแรกให้ 50-60% ก่อน แล้วสำรวจศักยภาพการฉีดแต่ละจุด ยืนยันจัดสรรให้เพิ่มเติมอย่างแน่นอน

วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันตอนหนึ่งว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส หรือเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ด่านหน้า และการทยอยจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ไปยังต่างจังหวัดว่า วัคซีนเข็ม 3 เข็มกระตุ้นภูมิสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จะมีการเสนอรายละเอียดให้ทราบเป็นประจำทุกวันเพื่อที่จะให้ได้เห็นข้อมูล ซึ่งตัวเลขล่าสุดตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 64 เป็นต้นมา ที่ได้ฉีดเข็มหนึ่งให้กับบุคลากรทางการแพทย์ จนถึงกระตุ้นเข็ม 3 เป็นแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว 182,082 ราย ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ ที่ฉีดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ตอนนี้บวกไปแล้ว 23,481 ราย ดังนั้นตัวเลขรวมของไฟเซอร์ 39,483 ราย

ทั้งนี้ ในส่วนการจัดสรรกระจายวัคซีนไฟเซอร์ขอเรียนให้ทราบว่า มีการสำรวจความต้องการของบุคลากรตอนนี้กรมควบคุมโรคจัดส่งให้ในเบื้องต้น 50-60% ของความต้องการที่สำรวจไว้ก่อน และหลังจากนั้นจะมีการสำรวจศักยภาพการฉีดแต่ละจุด แล้วจะจัดสรรให้เพิ่มเติมอย่างแน่นอน

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันที่ 5-6 ส.ค.นี้ ทางกรมควบคุมโรคได้จัดสรรวัคซีนล็อตแรกลงไปยังหน่วยฉีดเรียบร้อย ซึ่งขอเน้นย้ำว่าทุกจังหวัด ไม่ใช่ทุกโรงพยาบาลที่จะฉีดได้แต่จะมีการกำหนดหน่วยฉีด โดยสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้กำกับ เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์นั้นจะมีรายละเอียดเรื่องการขนส่งการเก็บอุณหภูมิที่ถูกต้อง ดังนั้น ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 7-9 ส.ค. มีการเริ่มฉีดในหลายหน่วยบริการและในส่วนของการกำกับติดตามนั้น นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ย้ำว่า ทุกๆหน่วยฉีด ขอให้ สสจ. กำกับติดตามด้วย และในส่วนของความโปร่งใสนั้นสังคมกำลังต้องการเห็นจึงขอให้ สสจ.และทุกจุดฉีดรายงานเข้ามาด้วย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับวัคซีนไฟเซอร์นี้ยังรวมถึงกลุ่มนักเรียนที่จะต้องเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศที่ได้รายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงขอเน้นย้ำว่าขอให้ติดต่อลงทะเบียนด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด รับอีเมลยืนยันในการลงทะเบียน และมีการนัดหมายผ่านทาง sms ไปยังเบอร์โทรศัพท์เพื่อนัดเข้าฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขขอเน้นย้ำว่าข้อมูลการดูแลผู้ป่วยทั้งการเข้าระบบรักษาที่บ้านและศูนย์พักคอย การดำเนินการทั้งภาครัฐเอกชนประชาสังคมจะมีการรวบรวมเข้าเป็นระบบฐานเดียวกัน โดย สปสช.ในเร็วๆนี้ จึงขอให้โรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ติดตามและลงข้อมูลด้วยเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการ


กำลังโหลดความคิดเห็น