ก. สาธารณสุข เผย ผู้ที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK หากผลเป็นบวก นำเข้าระบบการรักษาทันที หากรักษาในโรงพยาบาล แยกกักตัวในชุมชน ศูนย์พักคอย จะตรวจด้วยวิธี RT-PCR คู่ขนาน ป้องกันผลบวกลวง โดยแจ้งสายด่วนสปสช. 1330 ไลน์ออฟฟิศเชียล @nhso หรือในกทม.โทรเบอร์ติดต่อสำนักงานเขต
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวแนวทางปฏิบัติการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK สู่ระบบ Home Isolation และ Community Isolation ว่า ขณะนี้ได้ตรวจเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ด้วยชุดทดสอบรู้ผลเร็ว Antigen Test Kit (ATK) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขต กทม. โดยมีทีมแพทย์ชนบท ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกทม. ส่งหน่วยตรวจเชิงรุกประมาณ 30 พื้นที่ต่อวัน เพื่อค้นหาและคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน ป้องกันการแพร่เชื้อต่อ หากพบผู้ที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวกทางระบาดวิทยาเรียกว่า “ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย” จะนำเข้าระบบแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) โดยไม่ต้องทำ RT-PCR ซ้ำ และ สปสช. จะสนับสนุนเงินให้กับโรงพยาบาลในการจัดส่งอาหาร 3 มื้อ เป็นเวลา 14 วัน เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด ยาที่จำเป็น รวมถึงหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ และถุงแดงสำหรับใส่ขยะติดเชื้อ ตามมาตรฐานการทำ Home Isolation
หรือเข้ารักษายังในโรงพยาบาล หรือในชุมชน (Community Isolation) / ศูนย์พักคอย และตรวจด้วยวิธี RT-PCR คู่ขนานกันไป เนื่องจากอาจพบผลบวกลวงได้ประมาณ 3-5% โดยให้ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายเซ็นใบยินยอมการรักษา และแยกออกจากผู้ป่วยยืนยันรายอื่นก่อน หากเป็นฮอสพิเทลให้นอนแยกห้องละ 1 คน จนกว่าผล RT-PCR เป็นบวกจึงให้นอน 2 คน ขณะนี้ได้แจ้งเวียนแนวปฏิบัติไปยังโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศแล้ว ส่วนภาคเอกชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะได้ประสานให้มีการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน
นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานที่ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ได้แก่ 1. โรงพยาบาล หากผลเป็นบวก โรงพยาบาลรับรักษา 2. การตรวจเชิงรุกในชุมชน สปสช.จะขึ้นทะเบียนผู้ป่วยไว้ และจับคู่กับคลินิกชุมชนอบอุ่น โรงพยาบาล/ ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. เพื่อที่จะทำ Home Isolation หรือ Community Isolation ขณะนี้มี 5,000-6,000 เตียง และมีภาคเอกชนเข้ามาร่วม 3.การตรวจด้วยตนเอง ด้วยชุดตรวจ ATK ที่ผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และขึ้นทะเบียนจาก อย. เมื่อผลเป็นบวก ให้ถ่ายรูปผลการตรวจ และโทร.สายด่วน 1330 สปสช. ซึ่งขณะนี้เพิ่มเป็น 3,000 คู่สาย หรือสแกน QR code เพิ่มเพื่อนในไลน์ออฟฟิศเชียล @nhso ลงทะเบียน บันทึกอาการ เพื่อจับคู่กับสถานพยาบาลในการดูแล และตอบกลับโดยเร็วที่สุดโดย หรือผ่านเว็บไซต์ http://crmsup.nsho.go.th สำหรับพื้นที่ 50 เขต กทม. มีเบอร์โทรศัพท์ประจำสำนักงานเขต เขตละ 20 คู่สาย บริการประชาชนเกี่ยวกับโควิด 19 ตลอด 24 ชั่วโมง กรณีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน อาการวิกฤตให้โทร.สายด่วน 1669
