กองกำลังพลเรือนในรัฐกะยาประกาศหยุดโจมตีทหาร หลังชาวบ้านวอนเลิกสู้รบเหตุทำคนพลัดถิ่นนับแสน

รอยเตอร์ - กองกำลังพลเรือนติดอาวุธในรัฐกะยาของพม่าได้ประกาศหยุดการโจมตีเป้าหมายทางทหารในวันนี้ (15) หลังมีเสียงเรียกร้องจากชุมชนท้องถิ่นให้ยุติการสู้รบที่สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน และทำให้มีคนพลัดถิ่นมากกว่า 100,000 คน

กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเรนนี (KNDF) หนึ่งในกองกำลังพลเรือนที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อต่อต้านการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กล่าวว่า กองกำลังได้ระงับการโจมตีชั่วคราว แต่ยังคงต่อต้านการยึดอำนาจของทหาร

พม่าตกอยู่ในสถานการณ์สับสนวุ่นวายนับตั้งแต่ทหารโค่นรัฐบาลของอองซานซูจี โดยอ้างถึงการปฏิเสธที่จะจัดการกับสิ่งที่กองทัพระบุว่าเป็นการทุจริตในการเลือกตั้งเดือน พ.ย. แต่ผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศกล่าวว่า การลงคะแนนเสียงเป็นไปอย่างยุติธรรม

ซูจีปรากฏตัวที่ศาลในวันนี้ (15) ที่เป็นวันที่ 2 ของการพิจารณาคดีของเธอในข้อหาที่ผู้สนับสนุนของเธอระบุว่า เป็นเรื่องหลอกลวงและมีเจตนาที่จะทำลายอาชีพทางการเมืองของเธอ

ทนายความของซูจีปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของกระบวนการพิจารณาคดีในวันนี้ (15) แต่กล่าวว่า ซูจีมีอาการดีขึ้นกว่าวันแรก ที่พวกเขากล่าวว่าเธอดูเหมือนจะไม่สบาย

“เธอดูแข็งแรงเหมือนอย่างเคย เธอดูสุขภาพดี” มิน มิน โซ สมาชิกในทีมกฎหมายของซูจี กล่าว

“เราเพิ่งรู้ว่าเธอปวดฟัน เธอบอกเรา ไม่เช่นนั้นเราคงไม่รู้ เธอแข็งแรงและมั่นใจเหมือนเดิม” มิน มิน โซ กล่าว

มิน มิน โซ ระบุว่า ศาลพิจารณาคดีข้อหาปลุกระดม คดีที่มุ่งประเด็นถึงความพยายามในช่วงไม่กี่วันหลังการรัฐประหารโดยพันธมิตรของซูจีที่เรียกร้องให้สถานทูตและองค์กรระหว่างประเทศไม่ยอมรับรัฐบาลทหาร

นับตั้งแต่นั้นทหารได้กำหนดให้ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาเป็นกลุ่มผิดกฎหมาย ในฐานะผู้ก่อการร้ายหรือผู้ทรยศ รวมทั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่พยายามล็อบบี้ประชาคมระหว่างประเทศและขัดขวางรัฐบาลทหารจากการรวบอำนาจ

เมื่อต้นเดือน พ.ค. รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติได้ประกาศตั้งกองกำลังป้องกันประชาชน ที่หลายคนมีอาวุธเพียงแค่ปืนล่าสัตว์ และในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ซุ่มโจมตีกองกำลังความมั่นคงตามพื้นที่ชายแดนหลังข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมจากการเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านการรัฐประหารไม่ได้รับการตอบสนอง

รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความเห็นและโฆษกทหารไม่ได้รับสายที่รอยเตอร์ติดต่อในวันนี้ (15)

ประกาศของ KNDF ที่ระงับการโจมตีเกิดขึ้นไม่กี่วันหลัง มิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวประณามการใช้อาวุธหนักอย่างอุกอาจของกองทัพ รวมถึงในรัฐกะยา ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้กองกำลังพลเรือนช่วยดูแลพลเรือนไม่ให้ได้รับอันตราย

รัฐบาลทหารกล่าวเมื่อวันจันทร์ (14) ว่า บาเชเลต์ไม่ได้กล่าวถึงการก่อวินาศกรรมและการก่อการร้าย และความทุกข์ทรมานและการเสียชีวิตของกองกำลังความมั่นคง

องค์การนิรโทษกรรมสากลได้เรียกร้องการปล่อยตัวอองซานซูจี และได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่มีนโยบายไม่แทรกแซง ว่าเปิดทางให้กองทัพอาละวาด

สหประชาชาติและมหาอำนาจตะวันตกและเอเชียหนุนบทบาทของอาเซียนในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยในวิกฤตพม่า แต่บางประเทศได้วิจารณ์ความล้มเหลวของรัฐบาลทหารที่จะดำเนินการตามแผนที่เห็นพ้องกันในเดือน เม.ย. ที่รวมทั้งการยุติการใช้ความรุนแรงและเริ่มต้นการเจรจา

“ผู้คนหลายล้านคนในพม่ากำลังสูญเสียศรัทธาในอาเซียน กลุ่มภูมิภาคต้องเปลี่ยนแนวทางและให้ความช่วยเหลือผู้คนในพม่าด้วยการอยู่เบื้องหลังความพยายามระดับนานาชาติในการปกป้องพลเรือนและเรียกร้องการปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังโดยพลการทั้งหมด รวมทั้งอองซานซูจี” เอเมอร์ลีน จิล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยระดับภูมิภาคขององค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุ.