MGR Online - สำนักนายกรัฐมนตรีลาวค้านคำขอล็อกดาวน์นครหลวงเวียงจันทน์ เกรงผลกระทบต่อสังคม เชื่อสถานการณ์ควบคุมได้ ด้าน สธ.แจงผู้ที่เคยไปใช้บริการอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของผู้ป่วยชาวไทย ให้กักตัวเอง 14 วัน หากมีอาการน่าสงสัยให้รีบไปพบแพทย์
หลังจากเมื่อเช้าวานนี้ (13 เม.ย.) พูวง วงคำซาว รองเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ ได้ทำหนังสือเลขที่ 009/จนว เสนอถึงรัฐมนตรีและหัวหน้าสำนักงานนายกรัฐมนตรี ขออนุมัติปิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้าออก (Lock down) นครหลวงเวียงจันทน์ ตั้งแต่วันที่ 13-30 เมษายน 2564 หลังพบว่าเจ้าของร้านเกมและอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ซึ่งอยู่ที่บ้านโพนต้อง เมืองจันทะบูลี ติดโควิด-19 เป็นผู้ป่วยลำดับที่ 50
โดยในหนังสือได้แสดงความวิตกกังวลว่าร้านเกมและอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เป็นกิจการซึ่งมีเด็กและวัยรุ่นในนครหลวงเวียงจันทน์เข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีข่าวเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ว่า เจ้าของร้านแห่งนี้มีการเดินทางไปยังหลายพื้นที่ของนครหลวงเวียงจันทน์ก่อนพบว่าตัวเองติดโควิด-19 จึงเกรงว่าในช่วงเทศกาลบุญปีใหม่ลาว (สงกรานต์) ซึ่งจะมีคนจำนวนมากจากนครหลวงเวียงจันทน์ เดินทางออกไปเที่ยวแขวงต่างๆ ทั่วประเทศ และจะมีนักท่องเที่ยวภายในจากทุกแขวงทั่วประเทศเดินทางเข้ามาเที่ยวในนครหลวงเวียงจันทน์
องค์กรปกครองนครหลวงเวียงจันทน์จึงขอปิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้าออก (Lock down) นครหลวงเวียงจันทน์ ตั้งแต่วันที่ 13-30 เมษายน 2564 ยกเว้นการขนส่งสินค้า คนเจ็บ ผู้ได้รับอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากนครหลวงเวียงจันทน์ออกไปยังแขวงอื่นๆ
หลังเนื้อหาในหนังสือขออนุมัติล็อกดาวน์นครหลวงเวียงจันทน์ถูกเผยแพร่ออกมา คณะเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขโควิด-19 ขั้นศูนย์กลาง โดย ดร.พูทอน เมืองปาก รองรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และ ดร.ลัดสะหมี วงคำซาว รองหัวหน้ากรมควบคุมโรคติดต่อ ได้จัดแถลงข่าวขึ้นทันทีในช่วงบ่าย โดยชี้แจงถึงความวิตกกังวลที่ปรากฏในสังคมออนไลน์ ซึ่งมีข่าวลือว่าผู้ป่วยลำดับที่ 50 ได้เดินทางไปยังที่ต่างๆ ว่าไม่เป็นความจริง
คณะเฉพาะกิจฯ ได้แจ้งต่อผู้ที่ได้ไปใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ 189 ซึ่งเป็นของผู้ป่วยลำดับที่ 50 หลังวันที่ 9 เมษายนว่า ให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน และคอยติดตามดูอาการ หากสงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อโดยจะไม่เสียค่าใช้จ่าย
เย็นวันเดียวกัน สำนักงานนายกรัฐมนตรีลาว ได้มีหนังสือ เลขที่ 368/หสนย ตอบกลับข้อเสนอล็อกดาวน์ของเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ โดยอ้างถึงผลสอบสวนประวัติความเคลื่อนไหวของผู้ป่วยลำดับที่ 50 และการประเมินความเสี่ยงของคณะเฉพาะกิจฯ ขั้นศูนย์กลาง ซึ่งเห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
“สำนักงานนายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยที่จะมีการปิดการเดินทางเข้าออกนครหลวงเวียงจันทน์ เพราะจะส่งผลกระทบต่อสังคม”
อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้คณะเฉพาะกิจฯ ประสานงานกับฝ่ายบริหารนครหลวงเวียงจันทน์ เร่งติดตามผู้ที่เคยมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 50 เพื่อนำมาตรวจหาเชื้อ และกักตัวไว้ นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ปิดสถานบันเทิง ร้านคาราโอเกะ ร้านขายเครื่องดื่ม และห้ามจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่มีผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก
สำหรับผู้ป่วยลำดับที่ 50 เป็นนักธุรกิจเจ้าของร้านเกมและอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ชาวไทย และพบว่าติดโควิด-19 จากการไปตรวจที่โรงพยาบาลมิตรภาพ 150 เตียง เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอและเจ็บคอ
โดยก่อนจะเริ่มมีอาการ เมื่อวันที่ 3 เมษายน ผู้ป่วยได้พบกับคนไทย 3 คน ซึ่งลักลอบนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงจากจังหวัดหนองคายมายังนครหลวงเวียงจันทน์ บริเวณใกลักับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ซึ่งเมื่อทราบว่าเป็นคนไทยเช่นกันจึงได้ชวนกันซื้อเบียร์มานั่งดื่มบริเวณริมแม่น้ำโขง แต่ไม่ได้เข้าไปดื่มในร้าน โดยนั่งดื่มเบียร์ร่วมกันประมาณ 40 นาที ค่อยแยกย้าย และไม่ทราบว่าคนไทย 3 คน ที่ลักลอบเข้ามาในลาวเดินทางต่อไปที่ใด
ก่อนพบว่าติดโควิด-19 ผู้ป่วยอยู่ที่ร้านเกมและอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของตนเองเป็นส่วนใหญ่ โดยที่ร้านมีพนักงาน 5 คน และมีประวัติเดินทางไปบ้านของแฟนสาวในวันที่ 9 เมษายน
หลังพบว่าติดโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขลาวได้นำแฟนสาว และพนักงานในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของผู้ป่วยไปตรวจหาเชื้อ ผลออกมาเป็นลบ และทั้งหมดได้ถูกนำไปกักตัวเพื่อรอดูอาการยังศูนย์กักตัวของรัฐ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ป่วยเป็นเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ซึ่งมีผู้มาใช้บริการมาก หลังมีข่าวยืนยันออกมาว่าผู้ป่วยมีเชื้อโควิด-19 ทำให้เกิดความหวั่นวิตกแพร่กระจายตามสังคมออนไลน์ของนครหลวงเวียงจันทน์เป็นวงกว้าง จนรองเจ้าของนครหลวงเวียงจันทน์ต้องทำหนังสือขออนุมัติล็อกดาวน์ออกมาในตอนเช้าวันที่ 13 เมษายน.